ดีลลับ 2 บิ๊กแบรนด์อสังหาฯ พฤกษา โฮลดิ้ง ผนึก ออริจิ้นฯ ร่วมทุนพัฒนา 3 โครงการบน 3 ทำเลไพรม ประเดิมโครงการมิกซ์ยูส เวลเนสโฮเทลและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 5,000 ล้านบาท คอนโดฯไฮเอนด์ 2,800 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 980 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 8,700 ล้านบาท
วันที่ 23 มกราคม 2567 นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า พฤกษาฯได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ 3 บริษัทในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้แก่ บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) หรือ ONEO บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด หรือ PARK และบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI
วัตถุประสงค์เพื่อก่อสร้างและพัฒนา 3 โครงการ ได้แก่
ร่วมทุนโครงการมิกซ์ยูส มีโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และศูนย์บริการด้านสุขภาพ ทำเลสุขุมวิท มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท
ร่วมทุนคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยม ย่านพหลโยธิน มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท
พัฒนาบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม ย่านเพชรเกษม มูลค่าโครงการ 980 ล้านบาท ในอัตราส่วนการลงทุน 50 : 50
การร่วมทุนเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ เป็นข้อตกลงที่ได้รับประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 บริษัท หรือวิน-วิน และจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากการนำทรัพยากรและที่ดินของทั้ง 2 บริษัทที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาโครงการ แชร์เทคโนโลยีและโนว์ฮาว
โดยนำจุดแข็งของกลุ่มพฤกษาฯ ที่มีความแข็งแกร่งด้านเงินทุน พัฒนาการอยู่อาศัยที่ อยู่ดี มีสุข มีกลุ่มธุรกิจในเครือหลากหลาย ทั้งธุรกิจที่อยู่อาศัย ธุรกิจเฮลท์แคร์ (โรงพยาบาลวิมุต, โรงพยาบาลเทพธารินทร์) ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีสมาร์ทโฮม MyHaus ตัวช่วยที่ส่งเสริมเรื่องที่อยู่อาศัย และธุรกิจนวัตกรรมแผ่นพรีคาสท์คาร์บอนต่ำจากอินโน พรีคาสท์
เมื่อผนึกกำลังกับจุดแข็งของกลุ่มออริจิ้นฯ ที่มีจุดเด่นธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ จึงเชื่อมั่นว่าแผนร่วมทุนจะส่งเสริมให้ทั้ง 3 โครงการร่วมทุน ประสบความสำเร็จ ส่งมอบความอยู่ดีมีสุขให้กับคนในสังคม และจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้ พฤกษาฯจะได้ประโยชน์จากการนำที่ดินที่มีอยู่ในมือมาใช้พัฒนาผ่านแบรนด์ใหม่เพื่อสร้างฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น และเป็นการเพิ่มช่องทางเพื่อสร้างรายได้ประจำหรือรีเคอริ่งอินคัมได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย นายอุเทนกล่าว
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวเพิ่มเติมว่า การได้พฤกษาฯมาเป็นพันธมิตรร่วมพัฒนาโครงการต่าง ๆ จะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนนวัตกรรม เทคโนโลยี องค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญต่าง ๆ ระหว่างกัน ช่วยยกระดับการพัฒนาคุณภาพการก่อสร้างโครงการ การออกแบบฟังก์ชั่นและพื้นที่ในอาคาร
ในเมืองไทยเราอาจไม่ค่อยเห็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จับมือร่วมทุนกันเอง แต่ในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น มีความร่วมมือระหว่างกันเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ เพราะแต่ละรายต่างก็มีความถนัด ความเชี่ยวชาญในเซ็กเมนต์และทำเลแตกต่างกัน
โดยเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ นำเสนอฟังก์ชั่นและนวัตกรรมตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการพักผ่อนของคนยุคใหม่ อาทิ พัฒนาคอนโดฯ Pet Lover การพัฒนาห้องแบบ Duo Space เพดานสูง 4.2 เมตร บ้านเดี่ยวที่ใส่ใจ Universal Design
ในส่วนพฤกษาฯ เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ มีความเชี่ยวชาญในด้านนวัตกรรมการก่อสร้าง และประสบการณ์การพัฒนาโครงการมากมาย จึงเชื่อว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถมาช่วยเติมเต็มความถนัดและโอกาสซึ่งกันและกันได้
เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างออริจิ้นฯและพฤกษาฯในครั้งนี้ จะเป็นมิติใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่บริษัทระดับท็อปของตลาด 2 ราย มารวมพลังกัน พัฒนาทั้งโรงแรม คอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว ยกระดับการพักผ่อนและการอยู่อาศัยให้แก่ผู้บริโภค นายพีระพงศ์กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มพฤกษา โฮลดิ้ง ในปัจจุบันมี 3 พอร์ตอสังหาฯ ประกอบด้วย 1.ทาวน์เฮาส์ ภายใต้แบรนด์บ้านกรีนเฮาส์ (Baan GreenHaus), บ้านพฤกษา (Baan Pruksa), พฤกษาวิลล์ (Pruksa Ville), เดอะ คอนเนค (The Connect), พาทิโอ (Patio)
2.บ้านเดี่ยว ภายใต้แบรนด์เดอะ แพลนท์ (The Plant), ภัสสร (Passorn), และ เดอะ ปาล์ม (The Palm) และ 3.คอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์พลัม คอนโด (Plum Condo), เดอะ ทรี (The Tree), แชปเตอร์ (Chapter), แชปเตอร์ วัน (Chapter One), เดอะ ไพรเวซี่ (The Privacy) และเดอะ รีเซิร์ฟ (The Reserve) ส่งมอบที่อยู่อาศัยมากกว่า 260,000 ครอบครัว
นอกจากนี้มีธุรกิจด้านสุขภาพ โรงพยาบาลวิมุต และโรงพยาบาลเทพธารินทร์ และ PSH ได้ขยายธุรกิจใหม่ด้านอีคอมเมิร์ซด้วยการก่อตั้งบริษัท ซินเนอร์จี โกรท จำกัด รวมทั้งก่อตั้งบริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด เพื่อรองรับความต้องการด้านพรีคาสท์ในตลาดธุรกิจก่อสร้าง และมีการลงทุนอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมและเพิ่มความสามารถในการสร้างผลกำไร สร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกลุ่มบริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มีโครงสร้างธุรกิจ ดังนี้ 1.ธุรกิจที่อยู่อาศัย พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 158 โครงการ ข้อมูล ณ สิ้นไตรมาส 4/66) ได้แก่ แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge)
นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และบริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 240,661 ล้านบาท
2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำหรือรีเคอริ่งอินคัม เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจ เช่น ธุรกิจธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์
และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโต เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร
18/1/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 18 มกราคม 2567 )
