วันนี้ที่รอคอยของเจ้าสัวอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ พิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ ผู้วางรากฐานองค์กรเมื่อ 50 ปีที่แล้ว
ล่าสุดเพิ่งประกาศความสำเร็จผลประกอบการปี 2566 คว้ารายได้ 9,416 ล้านบาท ทำให้ความฝันเป็นองค์กรธุรกิจเฟอร์นิเจอร์หมื่นล้านกำลังจะเป็นจริงในปี 2567 นี้
2567 รุกลงทุนรอบใหม่
โดย นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน และของตกแต่งบ้าน รวมถึงผู้ให้บริการพื้นที่เช่า ภายใต้แบรนด์ The Walk-Little Walk-Index Mall ประกาศแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (2567-2569) ขับเคลื่อนกลยุทธ์ INDEX Nextperience & Beyond+Sustainable Future มุ่งสู่การเติบโตที่แข็งแกร่ง เคียงคู่การสร้างคุณค่าให้สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ สถานการณ์โควิดอาจเป็นเกมเชนจ์สำคัญ แต่ ILM ถือว่าสอบผ่านฉลุย มีตัวชี้วัดเป็นรูปธรรม สะท้อนผ่านผลดำเนินการปี 2566 มีรายได้รวม 9,416 ล้านบาท เติบโต 4.5% จากปี 2565 มีกำไรสุทธิ 726 ล้านบาท เติบโต 10.2% แผนธุรกิจ 3 ปี ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดขายที่ต้องการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก หรือ Double-digit Growth
โฟกัสทิศทางธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ปี 2567 ทาง ILM จัดวางสูตรธุรกิจ 3P Performance-People-Planet เพื่อสร้างการตลาดในใจคนสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง
เริ่มจาก Performance ค่าเฉลี่ยมีการลงทุนเปิดสาขาใหม่ปีละ 1-2 สาขา ปัจจุบันมีแล้ว 31 สาขาในไทย กับความรุดหน้าในการขยายแฟรนไชส์ ILM ใน 6 ประเทศด้วยกัน
สาขาในไทยมีเรื่องใหม่ปีนี้ เตรียมเปิดโมเดลใหม่ ต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานรายแรกของธุรกิจค้าปลีกไทย และรายแรกในภูมิภาคอาเซียน สาขาสระบุรี บนพื้นที่ 10 ไร่ ลงทุน 170 ล้านบาท เปิดบริการไตรมาส 1/68 พร้อมขยายลิตเติลวอล์กอีก 2 สาขา โดยลงทุน 550 ล้านบาท เปิดสาขารัตนาธิเบศร์ บนพื้นที่ 12 ไร่ ตรงข้ามเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ มีพื้นที่ขาย 6,340 ตร.ม. โซนร้านค้าเช่า 10,100 ตร.ม. เตรียมเปิดบริการไตรมาส 4/67
ควบคู่รีโนเวต 3 สาขาเดิม เพิ่มเติมดีไซน์ใหม่ เชียงใหม่ อุดรธานี พัทยา รวมทั้งรุกตลาดเฟอร์ฯพรีเมี่ยม ที่คว้าลิขสิทธิ์เฟอร์ฯเดนมาร์ก และทำตลาด 10 ปีในเมืองไทย ปีนี้ลงทุน 150 ล้านบาท วางแผนเปิดสโตร์แบรนด์ใหม่ DecorScape อาคาร 3 ชั้นปักหมุดใจกลางทองหล่อ ปั้นเป็น Lifestyle Mall ดีไซน์โมเดิร์นลักเซอรี่ บนพื้นที่ 3,000 ตร.ม.
ตลาดต่างประเทศขยายแล้ว 12 สาขา ใน 6 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม 2 สาขา, เมียนมา 4 สาขา, สปป.ลาว 1 สาขา, กัมพูชา 2 สาขา, เนปาล 2 สาขา และมัลดีฟส์ 1 สาขา ปีนี้ขยายเพิ่ม 4 สาขา ที่เวียดนาม 2 สาขา (เมืองโฮจิมินห์) กับเมียนมา 1 สาขา (เมืองมัณฑะเลย์) โดยเจาะตลาดอินเดียครั้งแรกอีก 1 สาขาที่เมืองปุเณ (Pune) คิวต่อไปเล็งเปิดใหม่โซนตะวันออกกลาง เช่น ดูไบ, ซาอุดีอาระเบีย
เอกซเรย์รายได้ 9,416 ล้านบาท พบว่าปี 2566 ยังเป็นปีแรกที่ ILM ทำรายได้บนช่องทางออนไลน์ทะลุ 1,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรก แน่นอนว่าปีนี้ยังคงต่อยอดความสำเร็จแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนเปิดตัว Index Mobile App บริการแอปพลิเคชั่นของคนรักการแต่งบ้าน ในไตรมาส 2/67 นี้
ด้านการขยายฐานลูกค้าใหม่ ปีนี้เป็นปีบุกทะลวงสร้างฐานลูกค้ากลุ่ม New Gen เน้นสร้าง Digital Experience และ Pop Display ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ควบคู่รักษาฐานลูกค้าเดิม โดยขยายไลน์สินค้าไฟติ้งแบรนด์ Furinbox วางจำหน่าย 22 สาขาทั่วประเทศ เจาะกำลังซื้อลูกค้า C Level ที่เป็นฐานใหญ่ในประเทศ รวมถึงขยายสินค้าในกลุ่ม Customized-เฟอร์นิเจอร์สั่งตัด ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น
แผนยุทธศาสตร์ด้าน People โฟกัสสร้างประสบการณ์ให้เหนือกว่า (Beyond Experience) ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยส่งเสริมการขายและบริการ นำร่องแล้วในไตรมาส 1/67 ที่สาขาพัทยา ด้วย Generative AI for Interior Design นำ AI ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันสำหรับงานดีไซน์ ลดขั้นตอนให้ง่ายและรวดเร็วของดีไซเนอร์ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ตรงจุด
อวดโฉม Ecostore สระบุรี
ผู้บริหารอีกราย เอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจกลุ่มธุรกิจยูนีก และบริหารพื้นที่ศูนย์เดอะวอล์ค กล่าวเพิ่มเติมว่า ยุทธศาสตร์ Planet มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ประเดิมเปิด Ecostore สาขาสระบุรี อาคารประหยัดพลังงาน ZEB-Zero Energy Building โดยร่วมกับคอรัล ไลฟ์-Coral Life ผู้ให้บริการออกแบบสภาพแวดล้อม ซึ่งคุณภาพอากาศภายในอาคารประหยัดพลังงานดีเทียบเท่าอากาศในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ค่าฝุ่น PM 2.5 ใกล้เคียงระดับ 0 ซึ่งจะสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับลูกค้าและพนักงาน
ILM ตั้งใจพัฒนาสาขาสระบุรีเป็นเครื่องกรองอากาศของเมือง ด้วยความเชื่อที่ว่าอากาศสะอาดควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน เปรียบเสมือนกับโครงสร้างพื้นฐานของเมืองสำหรับทุกคน ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการพัฒนาองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะการลงมือทำในปัจจุบันอย่างต่อเนื่องเท่านั้นที่จะเป็นกุญแจสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมาย
ปฏิบัติการองค์กรธุรกิจยั่งยืน ลุกลามไปถึงการพัฒนาสินค้า Ecoproduct ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีสัดส่วนสินค้ากลุ่มนี้ 10% แผน 3 ปีเริ่มตั้งแต่ปีนี้ต้องการเพิ่มเป็น 20% อาทิ กลุ่มสินค้า Recycled Materials ที่ทำจากเส้นใยและพลาสติกรีไซเคิล การนำไม้สักเก่ามา Upcycling เป็นเฟอร์ฯชิ้นใหม่, กลุ่มสินค้า Energy Saving ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าและน้ำ เช่น หมอน ผ้าห่ม (Cooling Pillow & Blanket) และผ้าม่านกันแสงที่ไม่อมฝุ่น, กลุ่มสินค้า Biodegradable ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ อาทิ วัสดุจากฟางข้าวสาลี เป็นต้น
อีกทั้ง ILM ได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับภาครัฐและกลุ่มรัฐวิสาหกิจชุมชนต่อเนื่อง โดยปี 2566 ร่วมกับกลุ่มใบไม้ ชุมชนบ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช นำงานคราฟต์ผ้ามัดย้อมมาพัฒนาเฟอร์นิเจอร์กลุ่มเบดรูมคอลเล็กชั่น Happy Vacation
ร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พัฒนาไอเดียงานออกแบบรูปแบบอินโนเวทีฟเฟอร์ฯดีไซน์ โต๊ะขนมชั้น จากแนวคิด Work to Dine นำเสนอแนวคิด Work Hard, Eat Harder เพื่อเพิ่มประสบการณ์ช็อปให้ลูกค้า แน่นอนว่าปีนี้เตรียมพัฒนาเฟอร์นิเจอร์ Living จากงานคราฟต์ไม้แกะสลักสไตล์ล้านนา ร่วมกับกลุ่มชุมชนบ้านกิ่วแลน้อย จ.เชียงใหม่
รวมถึงสนับสนุนรัฐวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเย็บผ้าเครื่องนอนยางพาราเขาคีริส จ.กำแพงเพชร เพื่อคงคุณค่างานหัตถศิลป์ควบคู่การกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน
งบฯลงทุน 3 ปี 3 พันล้าน
นอกจากนี้ มีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปรวม 28 แห่ง ทั้งอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์, ศูนย์การค้าเดอะวอล์ค, ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน ด้วยงบฯลงทุน 383 ล้านบาท คำนวณเฉพาะปี 2566 สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 14,950.87mWh เท่ากับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 7,261.64 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ที่น่าสนใจทำให้ช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ช่วยประหยัดไฟมากถึง 300 ล้านบาท บริษัทเดินหน้าขยายการติดตั้งโซลาร์รูฟสาขาเปิดใหม่ตามลำดับ
ในด้านโลจิสติกส์ที่มีรถบรรทุกขนส่งหลักหลายร้อยคัน ILM เริ่มต้นนับ 1 ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการขนส่งพลังงานสะอาด (EV Truck) อีก 20% ในปีนี้ ที่ผ่านมาในปี 2566 เปลี่ยนจากรถใช้น้ำมันเป็นรถ EV 8 คัน กระจายสินค้าพื้นที่ 5 จังหวัดปลายทางที่นครสวรรค์ พิษณุโลก นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน 5 ล้านบาท/ปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 878.59 ตันคาร์บอน หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 106,000 ต้น เป็นต้น
แผนธุรกิจสำคัญไม่อาจมองข้ามประเด็นงบฯลงทุน พบว่าช่วงสถานการณ์โควิดถึงแม้จะมีผลกระทบมากมายแค่ไหน แต่ ILM ยังคงมีการลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่อง และปี 2567 เป็นต้นไป นับเป็นปีที่มีการหวนกลับมาลงทุนรอบใหม่อีกครั้ง ถัวเฉลี่ยตามแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ILM มองการลงทุนปีละ 1,000 ล้านบาทอย่างต่อเนื่อง
เรามีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนเป็นอย่างมาก กลยุทธ์การทำธุรกิจที่เดินมาถูกทางในทุกด้าน ทำให้ ILM มีเงินสดเหลือเฟือที่พร้อมจะลงทุน สร้างการเติบโตในอนาคต และเติบโตยั่งยืนในระยะยาว
บรรทัดสุดท้ายกับคำถาม ILM กำลังจะเป็นธุรกิจรายได้หมื่นล้านในปีนี้ คำตอบกระชับ เป็นความฝันคุณพ่อ อยากเห็นอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ไปถึงจุดนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายชาว ILM ทุกคน เรามีการเชนจ์ตัวเองทุก ๆ ปี และเราไม่เคยหยุดนิ่งนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า สังคม และโลกใบนี้
21/3/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 21 มีนาคม 2567 )