สิ้นสุดการรอคอย เมกะโปรเจ็กต์ภาคเอกชน โครงการ วัน แบงค็อก-One Bangkok มีกำหนดเปิดบริการเฟสแรก ไตรมาส 4/67 นี้ ด้วยมูลค่าโครงการ 1.2 แสนล้านบาท
โครงการนี้ ปณต สิริวัฒนภักดี ซีอีโอ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด หรือ FCL รวบรวมประสบการณ์พัฒนาโครงการว้าว ๆ ทั่วโลกจาก 22 ประเทศ 70 เมืองที่เข้าไปลงทุน นำมาใส่ไว้ในโครงการ วัน แบงค็อก แห่งนี้
ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ อาทิ ในประเทศสิงคโปร์มีโครงการ Frasers Tower และ Water Way Point, ในออสเตรเลียมีโครงการ Central Park, Midtown MacPark และ Central Place Sydney, ในประเทศอังกฤษมีโครงการ Farnborough Business Park เป็นต้น
ด้วยความที่ทำเลตั้งอยู่บนที่ดินเช่าระยะยาวจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ผืนใหญ่ขนาด 108 ไร่ ทำเลหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 ใหญ่กว่านี้ ไพรมแอเรียกว่านี้ไม่น่าจะมีอีกแล้วในโซนใจกลางมหานครกรุงเทพ
ดังนั้น วัน แบงค็อก จึงนำเสนอวิสัยทัศน์สร้างสรรค์พื้นที่ 108 ไร่ให้เป็นสถานที่ที่ผู้คนจะตกหลุมรัก เป็น The Heart of Bangkok-เมืองกลางใจ ที่ใช้ใจสร้าง
จุดที่เห็นว่าน่าสนใจมากเป็นเรื่องการสร้างพื้นที่สีเขียว และพื้นที่เปิดโล่งมากกว่า 50 ไร่ จากพื้นที่เช่า 108 ไร่ เรียกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่พัฒนาโครงการกันเลยทีเดียว
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเห็นดีเวลอปเปอร์ ให้ แบบนี้กันเยอะ ๆ กรุงเทพฯจะได้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ตามปณิธานของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนที่ 17
โรลโมเดลที่น่าประทับใจของ วัน แบงค็อก เป็นพาร์ตของแนวคิดพัฒนาโครงการในด้าน Sustainable Development ให้สอดคล้องกับ Sustainable Development Goals : SDGs เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
ตัวโครงการจึงเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็น Electric Power Saver ระบบกักเก็บไฟฟ้าสำรอง District Cooling System ระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์
Smart Water Management ระบบบริหารจัดการน้ำ, Construction Waste Management ตั้งเป้านำขยะจากการก่อสร้างมากกว่า 75% กลับมาใช้ใหม่ และรีไซเคิล, Food Waste Management เทคโนโลยีการจัดการเปลี่ยนขยะเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ย ผ่านเครื่อง Food Waste Composter เมืองกลางใจ ที่ใช้ใจสร้าง ต้องแบบนี้สินะ ไม่ใช่สร้างเพื่อคนรุ่นตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่มองเผื่อไปถึงคนรุ่นชั่วลูกชั่วหลาน
เกือบลืมบอกว่าโครงการนี้ออกแบบให้มีสวนสาธารณะแนวยาวที่เรียกว่า Linear Park ขนาดกว้างจากทางเท้าถึงหน้าโครงการ 35-45 เมตร เป็นจุดเชื่อมระหว่าง 2 สวนหลักเมืองกรุง สวนลุมพินี+สวนเบญจกิติ ทำแบบนี้ก็วิน-วินด้วยกันทั้งผู้ประกอบการ และผู้บริโภค เพราะเป็นพื้นที่เปิดโล่งสำหรับทุกคน
การขับเคลื่อนเมกะโปรเจ็กต์ภาคเอกชนโดย วัน แบงค็อก มองในมุมเศรษฐกิจ ต้องบอกว่าเป็นการส่งสัญญาณบวกให้โลกได้ประจักษ์ กรุงเทพฯพร้อมแล้ว ประเทศไทยพร้อมแล้ว ที่จะต้อนรับกองทัพนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก
สอดรับกับบิ๊กอีเวนต์ของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่เพิ่งมอบนโยบายการประชุม IGNITE Thailands Tourism จุดพลัง รวมใจ ประเทศไทยเป็นที่ 1 ในด้านการท่องเที่ยว ที่ประกาศยุทธศาสตร์ชาติระยะใกล้ ปี 2568 จะเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
จิ๊กซอว์ของการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาโชติช่วงชัชวาลอีกครั้ง กำลังประกอบรูปร่างแบบร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้คนละมือทั้งภาครัฐบาลและเอกชน
ตอนนี้มีโครงการ วัน แบงค็อก เมืองกลางใจ ที่ใช้ใจสร้าง เกิดขึ้นแล้วในกรุงเทพฯ
อยากเห็นเมกะโปรเจ็กต์ภาคเอกชนแบบนี้เกิดขึ้นทุกหัวระแหงในประเทศไทยอีกจำนวนมาก
ไม่ต้องมีมูลค่าโครงการมากมายมหาศาล ขอแค่เป็นโครงการที่เป็น เมืองกลางใจ ที่ใช้ใจสร้าง เท่านั้นก็น่าจะพอแล้ว
เชื่อว่าเป็นวิน-วิน-วินเกม ประเทศชาติได้ ผู้ประกอบการได้ สุดท้ายเมื่อพัฒนาโครงการแล้วผู้บริโภค-ประชาชนทั่วไปก็ได้ประโยชน์ด้วย
22/3/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 22 มีนาคม 2567 )
