ร่วมอิสสระ บริษัทร่วมทุนระหว่าง เครือสหพัฒน์ และ ชาญอิสสระ ขยายโปรเจ็กต์ต่อยอดความสำเร็จตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เปิดทำเลที่ดินศักยภาพติดชายหาดที่หายากในหัวหิน พัฒนาโครงการ ศศรา หัวหิน มูลค่า 1,500 ล้านบาท ทำยอดขายไปแล้ว 90% เผยหัวหินยังเป็นเดสติเนชั่นหลักของคนกรุงเทพฯ
วันที่ 25 มีนาคม 2567 นายดิฐวัฒน์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด กล่าวว่า ได้มองเห็นถึงศักยภาพของที่ดินบริเวณเขาตะเกียบ-หัวหิน จึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างบริษัท แฮบบิตา จำกัด มาร่วมกันออกแบบโครงการ ศศรา หัวหิน คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ตั้งอยู่บริเวณชายหาดเขาตะเกียบ โดยอยู่ช่วงต้นหาดซอยหัวหิน 97-ซอยอ่าวหัวดอน ซอย 5 บนที่ดิน 5 ไร่ เป็นอาคารสูง 4 ชั้น 5 อาคาร จำนวน 110 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
ถือเป็นโครงการที่ 4 ของกลุ่มร่วมอิสสระ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเครือสหพัฒน์และชาญอิสสระที่ได้เริ่มพัฒนาโครงการร่วมกันมาตั้งแต่ 10 กว่าปีแล้วภายใต้ชื่อ ทิวทะเลเวิลด์ ชะอำ ในรูปแบบคอนโดมิเนียมมากกว่า 1,000 ยูนิต
โครงการ ศศรา หัวหิน เริ่มก่อสร้างเมื่อไตรมาส 2/2565 โดยรายละเอียดมีแบบห้องให้เลือก 3 แบบ ประกอบด้วย ยูนิตแบบ 1 ห้องนอน รวม 42 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 37-42 ตารางเมตร ราคา 5.9-10 ล้านบาท, ยูนิตแบบ 2 ห้องนอน รวม 60 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 74-92 ตารางเมตร ราคา 13.5-20 ล้านบาท และ ยูนิตแบบ 3 ห้องนอน Beach Front รวม 8 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 155-160 ตารางเมตร ราคา 49-55 ล้านบาท
ออกแบบสไตล์ Tropical Architecture ที่เน้นสถาปัตยกรรมเขตร้อนชื้น โดยคำนึงถึงการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เป็นริมทะเล มีลมพัดผ่าน จึงได้ออกแบบระเบียงให้มีชายคายื่นเพื่อป้องกันแดดและฝน รวมทั้งการออกแบบส่วนยื่นของอาคารที่เป็นที่นั่งริมระเบียงโดยสามารถเปิดรับลมได้ พร้อมออกแบบช่องเปิดต่าง ๆ ของอาคารที่มีส่วนให้ลมเข้า-ลมออก เพื่อให้เกิดสภาวะถ่ายเทของอากาศในห้อง การออกแบบช่องว่างระหว่างอาคารเพื่อให้ลมสามารถพัดผ่านได้ดี เป็นต้น
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ มีทั้งสระว่ายน้ำ 5 แบบ 5 สไตล์ ประกอบด้วย Lagoon Pool, Lap Pool, Step Waterfall and Hidden Jacuzzi, Kids Pool และ Entertainment Pool พร้อมด้วยกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกโครงการ อาทิ บีช คลับ ฟิตเนส พูลคลับ เรือคายัก เซิร์ฟบอร์ด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พร้อมระบบ CCTV เข้า-ออก โครงการด้วยระบบ Key card
ทั้งนี้ นายดิฐวัฒน์เปิดเผยว่า ยูนิตที่เป็นบีชฟรอนต์ขายไปแล้ว 6 ยูนิตเหลือ 2 ยูนิตสุดท้ายเท่านั้น สะท้อนให้เห็นถึงดีมานด์ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยดูจากยอดขายที่ทำการขายไปได้แล้วกว่า 70% ตั้งเป้าจะปิดการขายห้องชุดที่เหลืออีกประมาณ 30 ยูนิต ได้ประมาณไตรมาสแรกปี 2568 จากยอดขายของทั้งโครงการพบว่า 95% เป็นคนกรุงเทพฯ และ 5% เป็นชาวต่างชาติ ตอกย้ำว่าหัวหินยังเป็นเดสติเนชั่นหลักของคนกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติที่หนีหนาวมาพักยังประเทศไทยอีกด้วย
25/3/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 25 มีนาคม 2567 )