เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วย่างเข้าสู่ไตรมาส 2/67 อย่างไม่ทันตั้งตัว ได้เวลาอัพเดตพฤติกรรมผู้บริโภคอสังหาริมทรัพย์กันอีกสักรอบ
หนึ่งในเมกะเทรนด์แห่งยุคมีที่มาจากภาวะบูมของตลาดสัตว์เลี้ยง ที่คาดการณ์ว่าปี 2567 มีมูลค่าสูงถึง 7.5 หมื่นล้านบาท ส่งแรงกระเพื่อมมาถึงการพัฒนาโครงการที่ต้องดึงดูดเจ้าของสัตว์เลี้ยง ที่เรียกว่า Pet Friendly
พลิกปูมคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้
จุดโฟกัสอยู่ที่โครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ในที่นี้คงไม่ต้องนับรวมบ้านแนวราบ เพราะไม่ได้มีข้อจำกัดแต่อย่างใด เนื่องจากรูปแบบมีที่ดินและรั้วรอบขอบชิดทำให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้โดยอัตโนมัติ
ดังนั้น เทรนด์ที่เริ่มก่อตัวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถือว่าสุกงอมได้ที่ในปีนี้ จึงถูกจับตาการเลี้ยงสัตว์ในที่อยู่อาศัยแนวสูง หรือคอนโดมิเนียม ซึ่งตามปกติมักจะเป็นข้อห้ามเลี้ยงสัตว์ในห้องชุด
เนื่องจากรูปแบบโครงการเป็นตึกสูง จำเป็นต้องใช้ลิฟต์ส่วนกลาง ประตูส่วนกลางร่วมกัน การเลี้ยงสัตว์อาจส่งผลกระทบต่อสมาชิกในโครงการ ทั้งในประเด็นความสะอาดเพราะมีการขับถ่ายของเสียของสัตว์เลี้ยง รวมทั้งประเด็นอ่อนไหวจากขนสัตว์อาจส่งผลกระทบต่อผู้พักอาศัยที่เป็นโรคหอบหืด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวสามารถบริหารจัดการได้ ด้วยการนำนวัตกรรมการดีไซน์พื้นที่ส่วนกลาง มีการแยกสัดส่วนลิฟต์คน-ลิฟต์สัตว์เลี้ยง ตลอดจนสวนส่วนกลางที่แยกเฉพาะ พร้อมทั้งออกกฎระเบียบเพื่อสร้างกติกาการอยู่ร่วมกันระหว่างคนทั่วไปกับคนที่มีสัตว์เลี้ยง โดยหลักการใหญ่ เจ้าของห้องที่มีสัตว์เลี้ยงจะต้องไม่สร้างผลกระทบให้กับเจ้าของห้องที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ในคอนโดฯ
เมื่อสามารถทลายข้อจำกัดเหล่านี้ได้ จึงมีการนำเสนอโมเดล Condo Pet Friendly ไม่ต่ำกว่า 10 ปีมาแล้ว และบูมอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
เมเจอร์จุดพลุ 50 โครงการ
ทั้งนี้ ค่ายอสังหาริมทรัพย์มหาชนที่ถือว่าเป็นผู้จุดพลุคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้ ต้องให้เครดิตกับกลุ่มเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ โดย เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เทรนด์การเลี้ยงสัตว์ในช่วง 2-3 ปี มีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก
มีข้อมูลจาก TGM Research พบว่า คนทั่วโลกกว่า 58% นิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว โดยสัดส่วน 46% เลี้ยงเพียง 1 ตัว ที่น่าแปลกใจคือสถิติประเทศไทยเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก อยู่ที่ 73% อีกสถิติคือครอบครัวทั่วโลกนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพียง 1 ตัว สัดส่วน 45% แต่กลับพบว่าคนไทยนิยมเลี้ยงสัตว์ 2 ตัว/ครอบครัว มีสัดส่วนสูงถึง 23% และเลี้ยงสัตว์ 4 ตัว/ครอบครัวขึ้นไป สัดส่วน 24%
เพชรลดา พูลวรลักษณ์
ที่ผ่านมา เมเจอร์ฯได้ประกาศความตั้งใจที่มุ่งมั่นเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง โดยสร้างมาตรฐานใหม่ MAJOR Pet Family Residences เป็นแบรนด์แรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกบ้าน ทั้งในส่วนของกลุ่มลูกบ้านเลี้ยงสัตว์ และลูกบ้านที่ไม่ได้เลี้ยง ซึ่งพบว่าสัดส่วนของลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์นั้น มีจำนวนสูงขึ้น 45% เมื่อเทียบกับปี 2565
ปัจจุบัน คอนโดฯทุกโครงการของเมเจอร์สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยมีไม่ต่ำกว่า 50 โครงการ อาทิ เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว, มาร์ควิส พญาไท, มิลฟอร์ด ลาดพร้าว-รามคำแหง, เมทริส พัฒนาการ-เอกมัย, เมเจอร์ ทาวเวอร์ พระราม 9-รามคำแหง, เอ็ม จตุจักร เป็นต้น
ออริจิ้นส่งประกวด 16 คอนโดฯ
ถัดมา พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอาคารชุดไทย นำเสนอโมเดลคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้อย่างเป็นล่ำเป็นสันในช่วงที่ผ่านมา เบ็ดเสร็จมีพอร์ตพัฒนาคอนโดฯตอบโจทย์ Pet Lover ไม่ต่ำกว่า 16 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท
ตามสไตล์ค่ายออริจิ้นฯ ทำอะไรทั้งทีต้องมีลูกชกต่อเนื่อง บริษัทมีการตั้ง RED Team By Origin-Research for Excellent Development Team หรือทีมวิจัยเพื่อการพัฒนาที่เป็นเลิศ มีภารกิจค้นคว้าศึกษาวิจัย Insight ของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสัตว์เลี้ยงและคนรักสัตว์เลี้ยงอย่างสร้างสรรค์ สู่การพัฒนาคอมมิวนิตี้ที่ทุกชีวิตอยู่อาศัยร่วมกันอย่างมีความสุข
ขยายผลด้านมาร์เก็ตติ้งในการนำเสนอภาพจำว่าเป็นอาณาจักร Origin Pet Family โดยมีหัวข้อที่ได้ศึกษาและเผยแพร่แล้ว ได้แก่ 1.พฤติกรรมสัตว์เลี้ยง (Pet Behavior) 2.วัสดุ การออกแบบภายใน และพื้นที่ส่วนกลาง (Design) 3.ภูมิทัศน์ของโครงการ (Landscape) และ 4.บริการและความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์เลี้ยง (Pet Wellness and Service)
สำหรับคอนโดฯเลี้ยงสัตว์จำนวน 16 โครงการ ในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ อาทิ บริกซ์ตัน เพ็ท แอนด์ เพลย์ สุขุมวิท 107 ซี, บรอมป์ตัน เพ็ท เฟรนด์ลี่ สำโรง สเตชั่น, ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น, ออริจิ้น เพลส พหลฯ 59 สเตชั่น, ดิ ออริจิ้น บางแค, ออริจิ้น เพลย์ ศรีลาซาล สเตชั่น เป็นต้น
ASW ปักหมุดย่าน มธ.รังสิต
ค่ายอสังหาฯมาแรงแห่งยุค พชร ประพันธ์วัฒนะ กรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดแคมปัสคอนโดฯ หรือคอนโดฯใกล้สถาบันการศึกษา ประกาศตัวเข้ามาลงสนามด้วยคน มาแบบฟอร์มใหญ่ในการเปิดตัวคอนโดฯแห่งแรกในย่านรังสิตที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ภายใต้แบรนด์ เคฟ วันเดอร์แลนด์-Kave Wonderland มูลค่าโครงการ 2,550 ล้านบาท ทำเลใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อตอบโจทย์ทุกมิติการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท
ในย่าน ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง ดีมานด์จากกลุ่มนักศึกษา บุคลากรมหาวิทยาลัย พนักงานบริษัท ทั้งอยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อลงทุน ซึ่ง ASW ถือเป็นหนึ่งในเจ้าตลาดคอนโดฯในย่านนี้ พัฒนาแล้ว 4 โครงการ และสามารถ Sold out ได้อย่างรวดเร็ว ล่าสุดจึงสานต่อความสำเร็จด้วยการเปิดขาย เคฟ วันเดอร์แลนด์ ตรงข้าม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต มั่นใจว่าจะมีผลตอบรับที่ดีเหมือนทุกโครงการที่ผ่านมา จากจุดขายมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มากถึง 55 กิจกรรมที่สามารถใช้งานได้จริง เราได้เพิ่มจุดขายเป็นโครงการแรกในย่านรังสิต ที่มีโซนพักอาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ หรือ Pet Friendly อีกด้วย
ศุภาลัย-แสนสิริ-โนเบิลชิงดำ
ผู้สื่อข่าว ประชาชาติธุรกิจ รายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ มีบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เพิ่งจะลอนช์โครงการที่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับวงการ เปิดตัวบ้านแนวราบแบรนด์ ศุภาลัย วิลล์ วงแหวน ลำลูกกา คลอง 7 นำเสนอดีไซน์ บ้านทาสแมว ทำบ้านเข้าใจคนรักสัตว์เลี้ยง เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความสุขร่วมกันของสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เป็นอีกค่ายที่ไม่ยอมตกขบวนคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้ นำเสนอเป็นจุดขายที่ประสบความสำเร็จในโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ คอนโดมิเนียมสูงที่สุดในซอยทองหล่อ และเป็นโครงการที่อยู่ในพอร์ต Sansiri Luxury Collection ซึ่งปิดการขายไปเรียบร้อยแล้ว, คอนโดฯ เวีย อารีย์-Via ARI เป็นต้น
ค่าย MQDC นำเสนอโครงการแบรนด์ Whizdom The Forestias Petopia คอนโดฯไฮไรส์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อคนที่มีสัตว์เลี้ยง ตัวโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 400 ไร่ ออกแบบอย่างตั้งใจให้คนอยู่อาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติโดยมีพื้นที่สีเขียว 56% รวมทั้งเนรมิตผืนป่าขนาด 30 ไร่ มี 2 โครงการ 3 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร Destinia และ Mytopia ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยสำหรับคู่รัก หรือครอบครัวที่มีลูกเล็ก เพราะมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำกิจกรรมครอบครัว และอาคาร Petopia เป็นอาคารที่เหมาะสำหรับคนรักสัตว์โดยเฉพาะ มีพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้ มีพื้นที่วิ่งเล่นของสัตว์เลี้ยง และบริการรับฝากสัตว์เลี้ยงระหว่างวัน เป็นต้น
บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เกาะเทรนด์ Pet Friendly นำเสนอผ่านแบรนด์ โนเบิล ครีเอท ทำเลเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ออกแบบเป็นห้องชุดไฮไรส์ ทั้งโครงการมี 6 อาคาร สูง 25-33 ชั้น ในจำนวนนี้แบ่งออกมา 1 อาคารสำหรับเป็นคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้ สูง 29 ชั้น จำนวน 208 ยูนิต
31/3/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 31 มีนาคม 2567 )