ไซมิส แอสเสท หรือ SA กางโรดแมปนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยมุ่งสู่บ้านประหยัดพลังงาน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ตอกย้ำนโยบายบ้านกรีน นับจากนี้ทุกโครงการต้องได้รับใบรับรอง EDGE มาตรฐานอาคารสีเขียวจาก IFC พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี67 อยู่ที่ 7,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
วันที่ 29 เมษายน 2567 นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวสูง-แนวราบ และธุรกิจอื่น ๆ ที่ต่อยอดเกี่ยวกับการพักอาศัย กล่าวถึงวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจในปี 2567 ว่า บริษัทมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมตามหลักการ THE SUSTAINOVATIVE LIVING เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย
โดยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เทคโนโลยีพลังงานทดแทน การใช้งานทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งได้จัดตั้ง บริษัท ไซมิส เทคโนโลยี จำกัด พัฒนานวัตกรรม ควบคู่กับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และมีเป้าหมายการติดตั้ง EV charger 30 สถานี และโซลาร์รูฟ ที่มีกำลังผลิตรวมกว่า 50,000 กิโลวัตต์ต่อเดือน
เราให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบ พัฒนาเทคนิคการก่อสร้าง การเลือกใช้วัสดุที่ประหยัดพลังงานในการผลิต เลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าและสุขภัณฑ์ ที่ประหยัดพลังงาน ที่ทำให้เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้อาคาร จะลดการใช้พลังงานได้มากกว่า 40%
รวมถึงการใช้พลังงานทางเลือกและอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า การส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้าด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จ EV ในโครงการของบริษัท และเทคโนโลยี Air of Life เครื่องกรองอากาศที่เติมอากาศบริสุทธิ์สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 และประหยัดพลังงานด้วยระบบแลกเปลี่ยนความร้อน ลดความร้อนจากภายนอกก่อนเข้าสู่ภายในที่อยู่อาศัย ทั้งหมดนี้เป็นนวัตกรรมที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยของบริษัท นายขจรศิษฐ์กล่าว
สอดคล้องกับนโยบาย ธุรกิจสีเขียว ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สำคัญของการก่อสร้างอาคารในอนาคต สู่แนวทางการพัฒนาอาคารอย่างยั่งยืน และเชื่อว่าอาคารประหยัดพลังงานจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นเมื่อเทียบกับอาคารทั่วไป สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดการเช่าและขายอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างดี และนับจากวันนี้ทุกโครงการที่บริษัทพัฒนาจะต้องได้รับใบรับรอง EDGE มาตรฐานอาคารสีเขียวจาก IFC
ปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้อยู่ที่ระดับ 7,000 ล้านบาท ถึงแม้ว่าจะเป็นเป้าที่สูงและท้าทาย แต่ประเมินว่ารายได้หลักจะมาจากการโอนโครงการ Landmark @ MRTA Station-พระราม 9 ที่มี backlog ณ สิ้นปี 2566 มูลค่า 4,800 ล้านบาท และมีการทยอยโอนอย่างต่อเนื่องมาในปีนี้ ทำให้มองว่าจะมีรายได้จากการโอนคอนโดฯ 4,100 ล้านบาท มาจากแนวราบประมาณ 2,000-2,200 ล้านบาท และมาจากรายได้อื่น ๆ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร 500-600 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจบริษัทมุ่งเน้นธุรกิจโรงแรมและบริการ เพื่อรองรับธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว คาดรายได้ Recuring Business เป็นเป้าหมาย 15% ของรายได้บริษัท ภายใน 5 ปี อีกทั้งบริษัทกำลังพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับผู้สูงอายุ โดยในโครงการจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเสริม เช่น บริการด้านการแพทย์ และเนิร์สซิ่งโฮม เป็นต้น
พร้อมกันนี้ บริษัทวางแผนพัฒนาโครงการ ในทุกระดับราคาเพื่อรองรับทุกกลุ่มเป้าหมาย และจากเทรนด์ที่นิยมเช่าที่อยู่อาศัยมากกว่าซื้อ ที่ผ่านมาบริษัทพัฒนาคอนโดฯแบบ Branded Residence รองรับตลาดทั้งซื้อเพื่ออยู่และซื้อเพื่อเช่า สำหรับที่อยู่อาศัย Branded Residence by Siamese Asset จะมีการบริหารจัดการจากทีมงานมืออาชีพภายใต้แบรนด์ของโรงแรมชั้นนำที่มีความน่าเชื่อถือ โดยจะได้รับ Capital Gain ที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการคอนโดมิเนียมทั่วไปอีกด้วย
29/4/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 29 เมษายน 2567 )