บนความสำเร็จที่ผ่านมาและในปีนี้ จะมีพอร์ตพัฒนาโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมสะสม 43 โครงการ มูลค่าสะสม 60,000 ล้านบาท
สตอรี่ของความสำเร็จยึดแนบแน่นอยู่กับกลยุทธ์ มีห้างเซ็นทรัลที่ไหน มี CPN Residence ที่นั่น
สตอรี่เชิงลึกยังพบด้วยว่า 2567 เป็นปีแรกที่ CPN Residence ลงทุนด้วยกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของตัวเอง ด้วยแผนโปรเจ็กต์ลอนช์ (เปิดตัวโครงการใหม่) 10 โครงการ มูลค่า 13,430 ล้านบาท โดยไม่ได้ขอรับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ CPN นับเป็นความสำเร็จที่สร้างความแข็งแกร่งจากภายในอย่างแท้จริง
สร้างย่านสร้างเมือง 360 องศา
โดย วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ระบุว่า CPN มีความภาคภูมิใจกับพอร์ตธุรกิจที่อยู่อาศัย ที่ผ่านมาใช้เวลาเพียง 8 ปี ปัจจุบันจากการเติบโตต่อเนื่องของรายได้เฉลี่ยปีละ 20% จากปีแรก ๆ ที่รับรู้รายได้ 2,000 ล้านบาท
บัดนี้ในปี 2567 เป้ารายได้ยังเป็นเส้นกราฟขาขึ้น อยู่ที่ 7,000 ล้านบาท รักษาสปีดของการแข่งขันได้ดีเยี่ยม เพราะเป็นเป้าที่ต้องการเติบโตต่อเนื่อง 20% เทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้ 5,900 ล้านบาท
ธุรกิจที่อยู่อาศัยตอนนี้เป็นพอร์ตที่สร้างรายได้อันดับ 2 ให้กับ CPN รองจากธุรกิจรีเทลซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และสูงกว่าธุรกิจออฟฟิศบิลดิ้ง กับโรงแรม เป็นพอร์ตธุรกิจที่เติมเต็ม Eco System for All ของเราให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และสามารถทำกำไรเติบโตได้สูงที่สุดต่อเนื่องอีกด้วย
ทั้งนี้ CPN ประกาศแผนธุรกิจไปแล้วหลายครั้ง ในการพัฒนามิกซ์ยูสโปรเจ็กต์ อำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตครบวงจร ไม่ว่า Shop-Eat-Work-Play-Stay และ Live เพื่อมอบ
ประสบการณ์ที่มากกว่าการอยู่อาศัย อีกทั้งสร้างย่าน-สร้างเมือง ขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน ผ่านกลยุทธ์ 360-Degree Ecosystem for Life มอบคุณภาพการใช้ชีวิตเหนือระดับของ Central Citizens ทั่วประเทศที่มีจำนวน 6,700 ครอบครัว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา แบรนด์โครงการบ้านและคอนโดฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกบ้าน ให้เป็น Preferred Brand ในทุก ๆ ย่านและโลเกชั่นทั่วประเทศ โดยมีสัดส่วนรายได้จากคอนโดฯ 65% บ้านแนวราบ 35%
มิกซ์ยูสเซ็นทรัลในต่างจังหวัดจะปักหมุดในอำเภอเมือง มีมิติใหม่ของการใช้ชีวิตของเจ้าของห้องชุดจากต่างอำเภอและจังหวัดข้างเคียง กลายเป็นว่าคอนโดฯ ในห้างเซ็นทรัลเป็นบ้านหลังที่ 2 รองรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดไปแล้ว เช่น Escent โคราช นอกจากเจ้าของห้องชุดจะเข้ามาพักผ่อน ช็อปศูนย์การค้า พักผ่อนและออกกำลังกายใช้พื้นที่ส่วนกลางทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่า ฯลฯ ทานอาหาร แฮงเอาต์ แล้ววันจันทร์ก็กลับไปทำงานที่บ้าน
เมื่อถามถึงหน้าตาลูกค้าของบริษัท คำตอบคือ ราคาขายเป็นตัวกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นลูกค้าพรีเมี่ยม อาจไม่ได้ชี้วัดด้วยราคาขายเพียงอย่างเดียว เช่น คอนโดฯ แบรนด์เรือธง Escent เฉลี่ยตารางเมตรละ 80,000 บาท หรือเฉลี่ยห้องละ 2.5 ล้านบาท พบว่าลูกค้าซื้อด้วยเงินสด 60%
บริการหลังการขายคือหัวใจ
ผู้บริหารผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ร.อ.กรี เดชชัย President, Residential Business บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จวันนี้มาจาก 3 กลยุทธ์หลักที่เป็นความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ Better Living ได้แก่
1.Better Home บ้านบนทำเลศักยภาพ มาพร้อม Quality of Life ใส่ใจผู้อยู่อาศัยในทุกมิติ ติดตั้งระบบสมาร์ทโฮมแบบฟูลออปชั่น อาทิ ระดับดับเบิลเกต สมาร์ทซีเคียวริตี้ในตัวบ้าน การเข้าเยี่ยม-เข้าพบของแขกลูกบ้าน ระบบกล้องวงจรปิด CCTV ที่ทำให้เจ้าของบ้านมั่นใจว่าถึงพร้อมอย่างครบเครื่องทั้ง Better Safety, Better Design
และ Better Function & Feature ซึ่งมีสเป็กให้เหนือกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ยกตัวอย่าง คอนโดฯ โลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น กฎหมายไม่ได้บังคับแต่ก็ติดตั้งระบบสปริงเกอร์ให้ทุกยูนิต เพราะคำนึงถึงการอยู่อาศัยจริง
2.Better Privilege & Convenience การอยู่ติดหรือใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล มาพร้อมความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และเรายังมอบสิทธิประโยชน์อื่น ๆ สำหรับ Central Citizens อาทิ การสำรองที่จอดรถสำหรับลูกบ้าน การนำสินค้าในเครือเซ็นทรัลมาจัดกิจกรรมกับลูกบ้านทั้งปี การสะสมคะแนน The 1 เป็นต้น
3.Better Experience & Services การใช้ชีวิตในสังคมคุณภาพที่จับต้องได้ ที่สำคัญเป็นเรื่องบริการหลังการขาย และกิจกรรมที่จะสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือกว่าและไม่เหมือนใคร เช่น ร่วมกับไทวัสดุในเครือเซ็นทรัล ซึ่งมีบริการดูแลเรื่องบ้านครบวงจรคือ V Fix เข้ามารองรับการให้บริการทุกความต้องการหลังรับโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยไปแล้ว ไม่ว่าจะซ่อมแซม ตกแต่ง ต่อเติม
CPN Residence เราดูแลนิติบุคคลบ้านจัดสรรและนิติบุคคลคอนโดฯ เอง ดังนั้นประสบการณ์จริงของลูกบ้านจะสัมผัสได้ว่าราคาอสังหาฯ ไม่มีตก มีแต่จะเพิ่มมูลค่าขึ้นเรื่อย ๆ
ระวังลงทุน-กำกระแสเงินสด
สำหรับแผนธุรกิจในภาวะที่เศรษฐกิจภาพรวมยังเปราะบางอยู่นั้น ร.อ.กรี กล่าวว่า ทุกโอกาสและวิกฤตเศรษฐกิจมีช่องทางให้ทำธุรกิจได้เสมอ หลักการคือต้องทำธุรกิจแบบมืออาชีพ และสร้างวินัยในการลงทุน สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในยุคนี้มี 2 ข้อที่ต้องตระหนัก
เริ่มจากข้อแรก ดีเวลอปเปอร์จะต้องระมัดระวังในการขยายตัว สิ่งสำคัญต้องลงทุนไม่ให้เกินตัว กับข้อที่ 2 เป็นเรื่องการรักษากระแสเงินสด เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ สุขภาพองค์กรจะแข็งแรงมีเพียงคาถาเดียวในการทำธุรกิจคือ จะต้องมีกระแสเงินสดที่เพียงพอต่อขนาดธุรกิจ
มี 1 คำถามถึงแผนอนาคตระยะกลาง 2-3 ปีหน้า เป้ารับรู้รายได้จะแตะ 10,000 ล้านบาท ภายในปีไหน ระหว่าง 2568-2569-2570
เรารักษาจังหวะของการลงทุนและยอดรับรู้รายได้ 8 ปีที่ผ่านมาสร้างอัตราเติบโต 20% ต่อเนื่อง ส่วนคำถามจะแตะหมื่นล้านบาทปีไหน ถ้าหากเศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาบูมเมื่อไหร่ อาจไม่ต้องรอนานถึงปี 2570 ก็ได้
กุญแจสำคัญของการลงทุนอยู่ที่ CPN Residence จะเติบโตคู่ขนานไปกับการขยายตัวของมิกซ์ยูสโปรเจ็กต์ของ CPN ในทุกจังหวัด
30/6/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 30 มิถุนายน 2567 )