info@icons.co.th 02 810 8892-6 3.12.163.120

ครึ่งหลังปี’67 “แอสเซทไวส์” โฟกัสลูกค้า-รักษากระแสเงินสด

Residential News / ข่าวหมวดที่พักอาศัย

คำกล่าวของ CEO อสังหาริมทรัพย์ดาวรุ่งแห่งยุค “กลุ่มแอสเซทไวส์” ในโอกาสชวนคุยถึงผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 ที่หลายคนในวงการบอกว่าเป็นปีที่ยากลำบาก แต่กลับเป็นปีที่ซักเซสมีผลประกอบการตัวเลขเขียว และคาดว่าปีหน้างบการเงินยิ่งจะสมาร์ทกว่าปีนี้ เหตุผลเพราะจะเป็นปีครบรอบก่อตั้ง 20 ปี

19 ปีพัฒนาสะสม 9.8 หมื่นล้าน

โดย “กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ระบุว่า ปีนี้ครบรอบก่อตั้ง 19 ปี เบ็ดเสร็จมีพอร์ตพัฒนาโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมสะสม 68 โครงการ มูลค่า 98,105 ล้านบาท ปิดการขายแล้ว 32 โครงการ และแอ็กทีฟ 36 โครงการ แบ่งเป็น สร้างเสร็จพร้อมอยู่ หรือ RTM-Ready to Move 15 โครงการ, กำลังก่อสร้าง 17 โครงการ แยกย่อยลงไปอีกกำลังสร้างคอนโดฯ 12 โครงการ กับบ้านแนวราบ 5 โครงการ

กลุ่มบริษัท ASW มี 6 บริษัทย่อย เป็นบริษัทลูก (ถือหุ้น 100%) 5 บริษัท กับ 1 กิจการร่วมทุนในสัดส่วนถือหุ้น 30% กับกลุ่มโบทานิก้าลักเซอรี่ หนึ่งในยักษ์อสังหาฯ ท้องถิ่นชื่อดังเมืองภูเก็ต เมื่อนับรวมกับการเข้าถือหุ้น 60% ใน บมจ.ไทเทิล ทำให้ ASW ปลั๊กอินธุรกิจที่อยู่อาศัยครบทั้งพูลวิลล่าและคอนโดฯ

ทำความรู้จัก ASW เพิ่มอีกสักนิด รายได้หลักมาจากคอนโดฯ ผ่านหลากหลายแบรนด์ภายใต้ม็อตโต้ “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ-We Build Happiness” ประกอบด้วย แบรนด์ “โมดิซ” โมเดลธุรกิจเป็นคอนโดฯ ทำเลติดถนนใหญ่ ติดแนวรถไฟฟ้า, “แอทโมซ” คอนโดฯโลว์ไรส์ ทำเลในเมือง อยู่ในซอยหรือถนนสายรอง

“เคฟ” แคมปัสคอนโดฯ ปัจจุบันปักหมุดแทบจะครบทุกมหาวิทยาลัยดัง ไม่ว่าจะเป็น ม.กรุงเทพ, ธรรมศาสตร์ รังสิต, มหิดล, ม.บูรพา, รังสิต, ลาดกระบัง มีฐานลูกค้าหลักมาจากการซื้อลงทุนสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า

กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์

ไดนามิกของ ASW อยู่ที่ไตรมาส 4/67 เตรียมเปิดโฉมแบรนด์ใหม่ “อควารัส-Aquarous” ทำเลจอมเทียน พัทยา ต่อยอดพอร์ตพัฒนาโครงการโซน EEC ที่มีอยู่แล้วในศรีราชากับระยอง รอบนี้ต้องการนำโมเดลความสำเร็จจากการขายลูกค้าต่างชาติที่ขายดีระเบิดระเบ้อในภูเก็ต นำมาปรับใช้ที่จอมเทียน พัทยา รูปแบบเป็นการขายแบบลีสโฮลด์ ทำให้ก้าวข้ามข้อจำกัดโควตาซื้อคอนโดฯ 49% ของลูกค้าต่างชาติโดยอัตโนมัติ

ส่วนโปรดักต์บ้านแนวราบ แบรนด์ดัง ได้แก่ “ดิ ออร์เนอร์” ไพรเวตพูลวิลล่า ราคา 40-60 ล้าน, “ดิ อาร์เบอร์” เซ็กเมนต์บ้านพรีเมี่ยม ราคา 9-20 ล้าน, “เอสตร้า” เจาะลูกค้ากำลังซื้อ Affordable

เรื่องใหม่ล่าสุดในนาทีนี้เป็นการเปิดขายแบรนด์ใหม่ “ฌาณ” บ้านสวยริมแม่น้ำ ราคา 15-30 ล้าน ดีไซน์บูทีกเฮาส์ซิ่ง และแรร์ไอเท็ม ติดแม่น้ำที่มีหน้ากว้าง 200-300 เมตร ติดถนนบรมราชชนนี แลนด์แบงก์แบบนี้มองว่าไม่มีอีกแล้ว คลับเฮาส์ติดริมแม่น้ำให้โจทย์ว่าทุกคนเห็นครั้งเดียวต้องจำได้ติดตาม มีบ้านจำนวนจำกัด 120 หลัง เจาะลูกค้าคนอยากมีบ้านริมน้ำเป็น Vacation Home

“พอร์ตโครงการของ ASW เรากระจายทำเลใน กทม.-ปริมณฑล วังหิน สุขุมวิท ปทุมฯ นครปฐม ภูมิภาคสำคัญเราไปอีอีซีเจาะแหล่งงาน ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม เมืองใหม่ เป็นทำเลอนาคต ในภูเก็ตโซนใหม่ หลังจากเทกฯ ไทเทิลก็ทำได้ดี ตัวเลขยอดขายช่วงไฮซีซั่นน่าพอใจ”

ขณะเดียวกัน บริษัทมีพอร์ตรายได้ประจำหรือรายได้ค่าเช่า (Recurring Income) ไม่ว่าจะเป็นมิงเกิลมอลล์, เวลล์ ธุรกิจศัลยกรรมความสวยความงาม ล่าสุด ปลายปีนี้ไฮซีซั่นภูเก็ตที่กำลังจะมาถึงเตรียมขยายลงทุนมิงเกิลไปที่หาดในยาง

รวมทั้งกิจการที่ CEO ภูมิใจนำเสนอคือ WHV-Wise Health & Beauty ธุรกิจเสริมให้กับอสังหาฯ เพราะมองว่าหน้าที่หลักของดีเวลอปเปอร์ต้องทำซีเนียร์ลิฟวิ่ง มอบทางเลือกให้ผู้สูงวัยพักอาศัยได้ปกติสุขในคอมมิวนิตี้ของ ASW ซึ่งแน่นอนว่า 2 สาขาปัจจุบันที่มีอยู่ กำลังจะทวีคูณเพิ่มอีก 2 สาขาในปลายปีนี้

ครึ่งปีหลังลงทุนครบทุกเซ็กเมนต์

ในด้านตัวเลขรัว ๆ ผลประกอบการไตรมาส 2/67 ทำรายได้รวม 2,884 ล้านบาท เติบโต 64% กำไรสุทธิ 593 ล้านบาท เติบโต 131% เทียบกับไตรมาส 1/67 เป็นตัวหนุนหลังให้ผลงานครึ่งปีแรก 2567 สามารถสร้างสถิติใหม่ มีรายได้รวม 4,642 ล้านบาท เติบโต 54% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2566 มีกำไรสุทธิ 849 ล้านบาท เติบโต 93% ถือเป็นรายได้และกำไรสุทธิงวดครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

โดยมีโครงการไฮไลต์ ได้แก่ เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ แคมปัสคอนโดฯ ใกล้ ม.กรุงเทพ จำนวน 1,770 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 99% และเดอะ ไทเทิล ฮาโล 1 ดีไซน์ Leisure Condominium ใกล้สนามบินภูเก็ต จำนวน 329 ยูนิต มูลค่า 1,537 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 93% ทั้ง 2 โครงการจะทยอยโอนและเป็นแรงหนุนสำคัญในไตรมาส 3/67

กลับมาที่ผลประกอบการภาพใหญ่ ในด้านยอดขายพรีเซลครึ่งปีแรกอยู่ที่ 10,730 ล้านบาท เติบโต 35% จากการเปิดตัวคอนโดฯ ภูเก็ต ภายใต้การพัฒนาของ “Title-บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)” บริษัทย่อยในเครือแอสเซทไวส์ 2 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ได้แก่ เดอะ ไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา 789 ยูนิต กับเดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง 814 ยูนิต

แผนลงทุนช่วงครึ่งปีหลัง 2567 เดินหน้าตามแผน The New Frontiers มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในทุกมิติ เดินหน้าเปิดตัวครบทุกทำเลหลักในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล, EEC และภูเก็ต รวม 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 11,760 ล้านบาท

แบ่งเป็น ไตรมาส 3/67 เปิดขายบ้านแนวราบ 2 โครงการ ได้แก่ ดิ อาเบอร์ รามอินทรา-วัชรพล มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท บ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่สไตล์ครีเอทีฟโมเดิร์นท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ใกล้ทางด่วนฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) เริ่มต้น 8.99 ล้านบาท และฌาน เดอะ ริเวอร์ไซด์ บรมราชชนนี มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวทำเลริมแม่น้ำท่าจีน ราคา 15-30 ล้านบาท

รวมทั้งเปิดตัวโครงการเรือธง “อควารัส จอมเทียน พัทยา” คอนโดฯ หรู ใกล้หาดจอมเทียน มูลค่า 4,500 ล้านบาท

ล่าสุด ทริสเรทติ้งได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตอันดับความน่าเชื่อถือของแอสเซทไวส์จาก “BBB-” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ “BBB-” แนวโน้ม “เป็นบวก” (Positive) จากภาพรวมที่แข็งแกร่งของบริษัท และผลการดำเนินงานที่รักษาระดับการเติบโตได้อย่างมั่นคง ทั้งยอดขาย รายได้ และกำไรสุทธิ

โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ทั้งสิ้นประมาณ 23,678 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้ไปได้ถึงปี 2569

“สถานการณ์ช่วงนี้ขายดีไม่มีฟลุก ตัวอย่างตลาดภูเก็ตเราทำงานอย่างหนัก นำอินโนเวชั่นจากรุงเทพฯ ไปใส่ในภูเก็ตทั้งโปรดักต์และเซอร์วิส ทำให้ลูกค้าเห็นแตกต่าง”

คิดละเอียด-ขยัน-ราคาเหมาะสม

น่าสนใจว่าแผนลงทุนครึ่งปีหลังที่จะเปิดเพิ่ม 6 โครงการใหม่ 11,760 ล้านบาท มองโจทย์เศรษฐกิจหนักเบาอย่างไร รวมทั้งกลยุทธ์ที่จะออกมารองรับด้วย

“เราเฝ้าระวัง ในทำเลใหม่ ๆ ความแม่นของทำเลไม่ใช่ติดรถไฟฟ้าแล้วเปิด เพราะใคร ๆ ก็เปิด ต้องละเอียดเรื่องซัพพลายดีมานด์ เราแทรกได้ไหม ต้องละเอียดเรื่องราคาที่ลูกค้าซื้อ เช่น แปลงหนึ่ง เราเข้าไปคุยกับนายหน้าตั้งแต่แห่ทำคอนโดฯไฮไรส์ เราบอกว่าจะทำตึกเตี้ยหรือโลว์ไรส์ ซึ่งช่วงโควิดเราทำราคาตึกเตี้ย เป็นความละเอียดที่เราต้องมั่นคงว่าถ้าขายได้ เราต้องทำ ถึงจะซื้อที่ดินมาทำ สิ่งเหล่านี้เป็นรายละเอียดเรื่องต้นทุน ถ้าซื้อที่ติดดอย ต้องพัฒนาราคาแพง อาจไม่แมตช์กับกำลังซื้อในยุคนี้”

กลยุทธ์นอกจากนี้ ยังมีเรื่องลูกขยันใส่อินโนเวชั่น ตัวอย่างชัดเจน แคมปัสคอนโดฯ ที่ ASW เป็นผู้นำตลาดเซ็กเมนต์นี้ ในช่วง 4-5 ปีไม่เคยหยุดนิ่ง มีการพัฒนาโปรดักต์ ใส่ฟังก์ชั่นให้โดนใจนักเรียนนักศึกษาได้เพิ่มมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา

และที่ขาดไม่ได้คือการประเมินผลกระทบจากปัจจัยภายนอก (ที่ควบคุมไม่ได้) เช่น ดอกเบี้ยแพง จะลดลงได้เมื่อไหร่ ภาวะสงครามจะยืดเยื้อหรือมีข้อยุติวันไหน ฯลฯ

กับ 2 คำถามสุดท้าย เทรนด์อสังหาริมทรัพย์จนถึงสิ้นปีนี้ ดีหรือไม่ดี คำตอบคือ ในมุมของ ASW ต้องหาของดีและราคาเหมาะสม โดย ASW มีลูกค้าบอกต่อหรือ Word of Mouth สัดส่วน 30%

กับคำถามที่ขอให้นิยามการทำธุรกิจอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง 2567 คำตอบแบบทันทีทันใด ต้องดูแลลูกค้า ดูแลกระแสเงินสดเป็นสำคัญ เป็นคาถาทำธุรกิจให้อยู่รอดและปลอดภัยอย่างยั่งยืนในระยะยาวสไตล์ ASW

18/8/2567  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 18 สิงหาคม 2567 )

ช่องยูทูปของ iCONS