แสนสิริประสบความสำเร็จขึ้นไปอีกขั้น ล่าสุด กลุ่ม Hyatt แบรนด์โรงแรมระดับโลกยื่นข้อเสนอเข้าลงทุนใน The Standard International คาดปิดดีลภายในปลายปีนี้ เบ็ดเสร็จตามสัญญาทางธุรกิจ Hyatt จะชำระค่าตอบแทนก้อนแรก 150 ล้านดอลลาร์
วันที่ 21 สิงหาคม 2567 นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Standard International (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) เครือโรงแรม The Standard (เดอะ สแตนดาร์ด) และ Bunkhouse (บังค์เฮาส์) แบรนด์โรงแรม Top 10 จากการจัดอันดับของ Travel + Leisures World Best Awards 2023
ล่าสุด อยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจากับ Hyatt (ไฮแอท) ผู้ประกอบการโรงแรมระดับโลก เพื่อเข้าลงทุนใน Standard International สะท้อนความสำเร็จและวิสัยทัศน์ของแสนสิริในการดำเนินธุรกิจ และเข้าลงทุนใน Future Growth Business (ธุรกิจที่มีมูลค่าการเติบโตในอนาคต) โดยแสนสิริ ได้เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Standard International ในปี 2560 และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจมาโดยตลอด และคาดว่าแสนสิริและ Hyatt จะสามารถปิดบิ๊กดีลนี้ได้ภายในปี 2567
การเข้าลงทุนซื้อกิจการ Standard International ของ Hyatt ครั้งนี้ จะส่งผลดีและสร้าง value added ต่อแสนสิริเป็นอย่างมาก เนื่องจาก Hyatt มีโครงสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็งทั่วโลก โดยเฉพาะโปรแกรมสมาชิก World of Hyatt ที่ประกอบไปด้วยสิทธิพิเศษและข้อเสนอมากมาย จะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่พร็อพเพอร์ตี้ของแสนสิริ
เนื่องจากดีลซื้อขายที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ แสนสิริยังคงเป็นเจ้าของพร็อพเพอร์ตี้ ประกอบไปด้วย The Standard, Hua Hin (เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน) The Standard Residences, Hua Hin (เดอะสแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ หัวหิน) The Peri Hotel, Hua Hin (เดอะ เภรี โฮเต็ลหัวหิน) The Peri Hotel, Khao Yai (เดอะ เภรี โฮเต็ล เขาใหญ่)
และเป็นเจ้าของ The Manner โรงแรมระดับลักเซอรี่ที่กำลังจะเปิดตัวในย่านโซโหของเมืองนิวยอร์กในเดือนกันยายน 2567 ที่สำคัญ แสนสิริยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจ Hospitality และมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ ในอนาคตเช่นกัน
นายอุทัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาแสนสิริได้รับการติดต่อจากเชนโรงแรมขนาดใหญ่ระดับโลกหลายแห่ง ซึ่งเราวิเคราะห์ว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดี เนื่องจากพิจารณาจังหวะโอกาส ปัจจัยพื้นฐาน สภาวะตลาด ตลอดจนนโยบายในการบริหารว่าสอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์ที่แสนสิริกำหนดไว้ คือการสร้างการเติบโตให้กับ Standard International ได้อย่างแข็งแกร่งและมีความมั่นคงในระยะยาว
ปัจจุบัน โอกาสทางธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาขยายตัวอีกครั้ง จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ส่งผลให้แนวโน้มความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวเริ่มฟื้นกลับ ถือเป็นเวลาที่เหมาะสม มีโมเมนตัมเชิงบวกต่อภาพรวมของธุรกิจ
แสนสิริในฐานะ No.1 แบรนด์ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนําของประเทศไทย ขอขอบคุณ Hyatt แบรนด์โรงแรมชั้นนำชั้นนำระดับโลก ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของ Standard International หนึ่งในธุรกิจทางด้าน Hospitality ของแสนสิริ ถือเป็นก้าวสำคัญในแผนพัฒนาเชิงกลยุทธ์ของ Standard International
โดยมั่นใจว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ของ Hyatt นอกจากจะสะท้อนถึงความสำเร็จในการลงทุน Standard International ของแสนสิริแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในหลากหลายด้านให้กับลูกค้าและทีมงานของ Standard International อีกด้วย นายอุทัยกล่าว
ทั้งนี้ สัญญาจะซื้อจะขายดังกล่าว ยังครอบคลุมสัญญาบริหารและแฟรนไชส์สำหรับโรงแรมมากถึง 21 แห่ง มีห้องรวมกันราว 2,000 ห้อง มีทั้งโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว อาทิ The Standard, London (เดอะ สแตนดาร์ด ลอนดอน) The Standard, High Line (เดอะ สแตนดาร์ด ไฮไลน์) ในเมืองนิวยอร์ก The Standard, Bangkok Mahanakhon (เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร) และโรงแรมบูติคอย่าง Hotel Saint Cecilia (โฮเทล เซนต์ เซซิเลีย) ในเมืองออสติน รัฐเทกซัส และ Hotel San Crist?bal (โฮเทล ซาน คริสโตบัล) ในเมืองบาฮากาลิฟอร์เนีย ประเทศเม็กซิโก
หลังจากที่บรรลุข้อตกลงตามสัญญาดังกล่าว Hyatt จะชำระค่าตอบแทนเริ่มแรกจำนวน 150 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มเติมอีกสูงสุดไม่เกิน 185 ล้านดอลลาร์ สำหรับโรงแรมแห่งใหม่ที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารโดย Hyatt
ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 แสนสิริมีผลงานยอดขายที่โดดเด่นจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของทางรัฐบาล ที่ทำให้ตลาดเริ่มกลับมามีสัญญาณบวก โดยสามารถสร้างยอดขายรวมได้ถึง 25,000 ล้านบาท คิดเป็น 48% ของเป้าทั้งปีที่ 52,000 ล้านบาท
ทางด้านรายได้ ครึ่งปีแรกทำได้ร่วม 20,000 ล้านบาท คิดเป็น 47% ของเป้าทั้งปีที่ 43,000 บาท โตขึ้น 8% (เทียบ Year on Year) กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท เป็นอันดับ 1 ทั้งในด้านรายได้และกำไรสุทธิเมื่อเทียบในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย
21/8/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 21 สิงหาคม 2567 )