รพ.สัตว์ทองหล่อ กางแผนครึ่งหลังปี67 มุ่งขยายสาขาทั้งไทย-เทศ ประเดิมสาขา อโศก-ประสานมิตร ต.ค.นี้ ก่อนเล็งปักธงสาขา 2 ในเวียดนาม พร้อมจับมือพันธมิตรเสริมแกร่งธุรกิจ Pet hospital-Pet well being คาดสิ้นปีโต 6-8%
สัตวแพทย์หญิงกฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสัตว์เลี้ยงในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ตลาดมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 9% ด้วยปัจจัยจากความนิยมเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนแก้เหงามากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
อย่างไรก็ตาม สิ้นปี 2567 คาดการณ์ว่า ตลาดสัตว์เลี้ยงอาจจะเติบโตไม่ถึง 9% จากที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% ทุกปี เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
ทั้งนี้ ด้วยวิสัยทัศน์ของ รพ. ที่มุ่งขยายธุรกิจในเชิง Portfolio Management ที่มีทั้ง Pet Hospital และ Pet Well Being ในช่วงครึ่งปีหลังปี 2567 รพ.จึงมีแผนขยายสาขาเพิ่มทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
โดยการขยายสาขาในประเทศช่วงต้นเดือนตุลาคม เตรียมเปิดสาขาใหม่ที่อโศก-ประสานมิตร บริเวณสุขุมวิท 31 ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 21 โดยใช้งบฯลงทุนประมาณ 15 ล้านบาท ส่วนปี 2568 มีแผนย้ายโลเกชั่นสาขาปิ่นเกล้า ที่เดิมมีพื้นที่ขนาด 600 ตร.ม. ไปอยู่ตรงข้ามกับตั้งฮั่วเส็ง ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 4,500 ตร.ม. เพื่อรองรับดีมานด์ หลังสาขาปิ่นเกล้าเป็นสาขาที่มียอดขายเป็นอันดับ 2 รองจากสาขาทองหล่อ
ด้านแผนขยายสาขาต่างประเทศ ในปี 2568 คาดว่าจะขยายเพิ่มอีก 1 แห่งในเวียดนาม ซึ่งจะเป็นการ JV กับพาร์ตเนอร์ โดยกำลังศึกษาตลาดทั้งโฮจิมินห์ และฮานอย
ทำให้ ณ สิ้นปี 2567 รพ.สัตว์ทองหล่อจะมีสาขาอยู่ทั้งหมด 21 สาขา แบ่งเป็นไทย 20 สาขา และเวียดนาม 1 สาขา นอกจากนี้จะสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับ Paw and Pal Pet Park ในคอนเซ็ปต์ Pet and Human Friendly Community ที่สำนักงานใหญ่พระราม 9 ในช่วงปลายปีนี้
สัตวแพทย์หญิงกฤติกากล่าวต่อว่า นอกเหนือจากการขยายสาขา ยังมีแผนเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ไม่ว่าจะทั้ง รพ.สัตว์ด้วยกันเอง และกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งในส่วนของการจับมือกับ รพ.สัตว์รายอื่น จะเน้นเข้าไปร่วมทุนและร่วมบริหารจัดการหลังบ้าน แบ่งเป็น 2 ด้าน ได้แก่ Pet Hospital ร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์เปิดศูนย์รับส่งต่อโรคซับซ้อน โดยมีสำนักงานใหญ่และสาขาขนาดใหญ่รองรับการส่งต่อเพื่อวินิจฉัยรักษาก่อนส่งกลับโรงพยาบาลต้นทาง อีกด้านคือ Pet Well Being ที่จะเน้นส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์เลี้ยง เช่น บริการ Grooming, Pet Swimming Pool, Pet Park และสินค้าสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูงอย่าง Dr.Choice
ส่วนการร่วมมือกับธุรกิจอื่น ๆ เช่น กลุ่มธุรกิจธนาคาร หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม และคอมมิวนิตี้ต่าง ๆ จะเป็นการนำความเชี่ยวชาญของ รพ. ไปแชร์ให้กับพันธมิตร เช่น การพัฒนาพื้นที่ในโครงการต่าง ๆ ให้มีพื้นที่ Pet Friendly มากขึ้น เป็นต้น
ที่ผ่านมามีการร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ไปแล้ว 8 ราย แบ่งเป็นต่างจังหวัด 4 ราย และกรุงเทพฯ 4 ราย ส่วนปี 2568 มองว่าจะมีพาร์ตเนอร์เพิ่มอีก 10 ราย ซึ่งตอนนี้กำลังเจรจาอยู่
นอกจากนี้ ยังพัฒนาและนำเอาเทคโนโลยี-นวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในการรักษา โดยเปิดศูนย์ Senior Care Center และ Recover Center ที่มีเครื่องมือ-เทคโนโลยี รวมถึงออกแบบสำหรับดูแลสัตว์เลี้ยงสูงวัย หรือพิการ รวมทั้งสัตว์เลี้ยงที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ และต้องการดูแลเป็นพิเศษอย่าง สัตว์ป่วยหลังการผ่าตัด หรือสัตว์ป่วยที่ต้องกายภาพบำบัด เพื่อให้ฟื้นตัวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด
จากแผนการดำเนินงานดังกล่าว คาดว่าสิ้นปี 2567 จะเติบโต 6-8% หรือเทียบเท่าตลาดรวม
31/8/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 31 สิงหาคม 2567 )
