มหาศาล มั่นคง สมดุล แกนหลักวิสัยทัศน์สร้างการเติบโตยั่งยืนในระยะ 5 ปีนี้ของค่ายเอสซี แอสเสทฯ
หลังจากประกาศวิสัยทัศน์เมื่อต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ล่าสุดในช่วงโค้งสุดท้ายไตรมาส 3/67 กลุ่มบริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ป มีการเปิดตัวผู้บริหารระดับคีย์แมนของ SCX บริษัทลูกที่เพิ่งจัดตั้งใหม่ ซึ่งมีบทบาทเป็นผู้บุกเบิกการลงทุนน่านน้ำใหม่ เป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ หรือรีเคอริ่งอินคัม (Recurring Income) ที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 15% ของรายได้รวมทั้งบริษัท เพิ่มเป็นสัดส่วนมากกว่า 25% ภายในแผน 5 ปี
แม่นยำไม่ทรงพลังเท่าหลากหลาย
โดย ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ SC ระบุว่า ปี 2567 กลุ่ม SC ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของการก่อตั้งองค์กร โดยเป็นยุคของการเติบโตทางธุรกิจที่ต้องเติบโตเคียงคู่กับผู้คนและสิ่งแวดล้อม จึงจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
โลกยุควูกา (VUCA สถานการณ์ของโลกปัจจุบัน มาจาก Volatility ความผันผวน, Uncertainty ความไม่แน่นอน, Complexity ความซับซ้อน และ Ambiguity ความคลุมเครือ) เราเจอโควิด สงคราม ความเชื่อมั่นภาคการเงิน เป็นพายุที่พัดเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลง บางครั้งก็พัดลูกค้าออกจากเรา หรือพาลูกค้ามาหาเรา
คีย์เวิร์ดของ CEO กลุ่มเอสซีฯ อยู่ที่ โลกยุควูกา โลกยุคแห่งความผันผวน ความแม่นยำไม่ทรงพลังเท่ากับความหลากหลาย กลุ่มบริษัทเอสซีฯ จะรับมือกับความผันผวน ต้องใช้ความหลากหลายของธุรกิจ
คำถามหลักคือ พ.ศ.นี้ จะลงทุนกับธุรกิจอะไรดีล่ะ คัมภีร์ไบเบิลด้านการลงทุนของบริษัท ตกผลึกออกมาเป็นเงื่อนไข 2 ข้อ คือ 1.ลงทุนไปแล้วสามารถสร้างรายได้สม่ำเสมอ หรือรีเคอริ่งอินคัม 2.เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มขาขึ้น หรือเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มสดใสของโลก
คำตอบสุดท้าย ต้องแตกไลน์ลงทุนมากกว่าหนึ่งธุรกิจ เพื่อสร้างความหลากหลายเพื่อให้ชนะความแม่นยำ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเดินตามยุทธวิธี จะรบให้ชนะ ต้องชนะตั้งแต่ก่อนออกสนามรบ หรือชนะตั้งแต่วิธีคิดก่อนเลือกลงทุน ตามแนวทางของคัมภีร์ซุนวู
เมื่อมั่นใจว่าสามารถจะรบชนะได้ตั้งแต่ก่อนออกรบแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นการเตรียมเสบียงและพลังให้กับทีมงาน โดยวางเม็ดเงินลงทุนรวม 20,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี (2025-2029)
ปั้นรีเคอริ่ง 3 ธุรกิจอินเทรนด์
ผู้บริหารอีกราย รชฎ นันทขว้าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน จำกัด หรือ SCX กล่าวเพิ่มเติมว่า SCX ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ The Prospering Expedition การออกเดินทางอันรุ่งโรจน์ กับพันธกิจ The Way Forward ที่มุ่งมั่นเสาะหาความเป็นไปได้ทางธุรกิจใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ
เปรียบเสมือนฝูงนกกระเรียนที่เดินทางไปสู่น่านน้ำใหม่ เพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ เพื่อวางรากฐานให้บริษัทสามารถมีความเจริญรุ่งเรืองและการเติบโตระยะยาว ด้วยเหตุนี้ รหัสย่อของบริษัทที่มีแกนหลักคือ SC อยู่แล้ว เติมสัญลักษณ์ปีกนกกระเรียน กลายเป็นตัวอักษร X จึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของ SCX
โดยมีรายละเอียดโรดแมปแผนลงทุน 5 ปี (2025-2029) แบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลัก ดังนี้
1.SCX Logistics พัฒนาอาคารคลังสินค้าเพื่อเช่า ครอบคลุมทำเล บางนา, EEC และอยุธยา-วังน้อย ตามแผนภายในปี 2029 คาดว่าจะมีพื้นที่เช่ารวม 700,000 ตร.ม. จากปัจจุบันให้บริการอยู่แล้ว 500,000 ตร.ม.
2.SCX Hospitality ลงทุนพัฒนาโรงแรมใน 4 ทำเลท่องเที่ยวหลักที่เป็นเดสติเนชั่นของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ประกอบด้วย กรุงเทพฯ, พัทยา, สมุย และภูเก็ต แผนลงทุนภายในปี 2029 คาดว่าจะมีจำนวนห้องพักรวม มากกว่า 2,000 ห้อง จากปัจจุบันมีจำนวน 545 ห้อง
3.SCX Working Solutions ปรับปรุงพื้นที่เช่าอาคารสำนักงานกว่า 120,000 ตร.ม. ประสานเทคโนโลยี ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ควบคุมวินัยการเงิน 1.5-1.6 เท่า
ทั้งนี้ CEO SC ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ขยายความแผนลงทุนสร้างรายได้รีเคอริ่งอินคัมด้วยว่า กรอบใหญ่ตามวิสัยทัศน์ มหาศาล มั่นคง สมดุล แบ่งสัดส่วนลงทุนโครงการที่อยู่อาศัย 80% และสัดส่วนลงทุนโครงการสร้างรายได้รีเคอริ่ง 20%
ส่วนแผนลงทุน 5 ปี จำนวน 20,000 ล้านบาทนั้น เกลี่ยน้ำหนักการลงทุนในช่วงครึ่งแรก 40% และไปเพิ่มน้ำหนักอีก 60% ในช่วงครึ่งหลัง เหตุผลหลักเพื่อให้สามารถรองรับกับจังหวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยและทั่วโลก ที่คาดว่ายังไม่ฟื้นตัวเต็มร้อยในปี 2568 แต่อาจจะเห็นความคึกคักหรือยุคบูมทางเศรษฐกิจได้อีกครั้งตั้งแต่ต้นปี 2569 เป็นต้นไป
คำว่ามหาศาลคือในแผน 5 ปี กลุ่มเอสซีฯ จะมีรายได้เพิ่ม 20,000-30,000 ล้านบาท คำว่ามั่นคงมาจากเราเน้นวินัยการลงทุนที่จะควบคุมหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 1.5-1.6 เท่า และสมดุลคือการสร้างกำไรจากรายได้ประจำสม่ำเสมอไม่ต่ำกว่า 1 ใน 4 ของกำไรรวมทั้งกลุ่มบริษัท
เรือธงใหม่โรงแรม-แวร์เฮาส์
สำหรับบิสซิเนสโมเดลพอร์ตรีเคอริ่ง MD SCX รชฎ นันทขว้าง ลงรายละเอียดให้เห็นภาพชัดเจนว่า ธุรกิจโรงแรม โดย SCX เริ่มพัฒนาโรงแรมย่านราชวัตร (Yahn Ratchawat) เป็นแห่งแรก จำนวน 70 กว่าห้อง มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 80% ทำให้มั่นใจว่ามาถูกทาง การลงทุนตามโรดแมป 5 ปี วางเป้าสร้างเพิ่มปีละ 1 โรงแรม เฉลี่ย 300 ห้องพัก โดยนอกจากโฮมแบรนด์ Yanh แล้ว ยังมี Kromo และร่วมกับเชนโรงแรมอื่น ๆ
ธุรกิจที่สนุกน่าจะเป็น แวร์เฮาส์ แผนเติบโต มาจากปัจจัยการมีพันธมิตรร่วมทุน หรือ JV-Joint Venture อยู่กับยักษ์อสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น กลุ่มโตเกียว ทาเทโมโนะ ทำให้มีการลงทุนแวร์เฮาส์คุณภาพสูง เช่น นำเสนอคลังสินค้าที่คู่แข่งในตลาดรับน้ำหนักได้ 3 ตัน แต่ SCX รับได้ถึง 4 ตัน ทำให้รองรับลูกค้าหลากหลายขึ้นโดยเพิ่มโอกาสรับลูกค้าโรงงานได้ด้วย เป็นต้น
บวกกับ 2 ปัจจัยเกื้อหนุน ได้แก่ มีทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 20 ปี กับการมีบริษัทแม่คือกลุ่มบริษัทเอสซีฯ ทำให้ SCX สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการลงทุนรองรับอนาคต
โดยสรุปแผน 5 ปี SCX รับเป้าหมายบริหารจัดการเม็ดเงินลงทุน 20,000 ล้านบาท เพื่อสร้างพอร์ตธุรกิจรีเคอริ่งขึ้นมาใหม่ ภายในปีสุดท้ายคาดว่ารายได้รีเคอริ่งมีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย หรือ EBITDA 2,000 ล้านบาท ทรัพย์สินรวมเพิ่มเป็น 40,000 ล้านบาท และสร้างรายได้ปีละ 4,000 ล้านบาท
โตคู่พันธมิตร-ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ SCX ยังมีแผนการดำเนินงานในด้าน Zero Carbon Emission Program ในทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาอาคารสีเขียว (Green Building), ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า, ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคาร
รวมถึงการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอกย้ำถึงความใส่ใจและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตามพันธกิจ SCero Mission (ซีโร่มิชชั่น) ของ SC Asset
SCX Corporation จะเป็นบริษัทเรือธงธุรกิจใหม่ สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ ในเครือ SC Asset ที่ประสบความสำเร็จ เพราะมีทีมเวิร์กที่แข็งแรงและมีความหลากหลาย มีวัฒนธรรมองค์กรที่ใส่ใจลูกค้า มีความมุ่งมั่นเดินทางเสาะหาโอกาสใหม่อย่างสม่ำเสมอ และมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง จากการสนับสนุนของ SC Asset และพันธมิตรทางธุรกิจ
30/9/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 30 กันยายน 2567 )