3 ตุลาคม 2567 บิ๊กอีเวนต์แกรนด์โอเพนนิ่งอาคารสำนักงานให้เช่าหรือออฟฟิศบิลดิ้ง แบรนด์ใหม่ล่าสุด สยามปทุมวัน เฮ้าส์ ของตระกูลพรประภา
ถึงแม้จะออกตัวว่าเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดออฟฟิศเมืองกรุง แต่บิสซิเนสโมเดลออกมาอย่างเนี้ยบ ทุ่มทุนสร้างให้เป็นสำนักงานอัจฉริยะระดับพรีเมี่ยมเกรด A บนไพรมแอเรียใจกลางย่านปทุมวัน มูลค่าโปรเจ็กต์ไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท
โดยสยามปทุมวัน เฮ้าส์ เป็นโครงการใหม่ภายใต้พอร์ตลงทุน 1 ใน 6 กลุ่มธุรกิจหลักของกลุ่มสยามกลการ ที่ประกอบด้วย 1.อุตสาหกรรมรถยนต์ 2.อะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ 3.อุตสาหกรรมและเครื่องจักรกลหนัก 4.การท่องเที่ยวและบริการ 5.การศึกษาและเครื่องดนตรี และ 6.การลงทุน
สยามปทุมวัน เฮ้าส์ ยังถือเป็นก้าวสำคัญของ SMG Next ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของกลุ่มสยามกลการด้วยเช่นกัน โดยได้เริ่มคิกออฟโครงการด้วยการจัดยพิธีวางศิลาฤกษ์ในเดือนเมษายน 2564 และก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนในไตรมาส 4/66 ที่ผ่านมา แน่นอนว่าได้สร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาดออฟฟิศบิลดิ้งเกรด A ไม่มากก็น้อยกันเลยทีเดียว
ผู้บริหารสูงสุด ประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการ จำกัด ระบุว่า สยามปทุมวัน เฮ้าส์ เป็นความภูมิใจและเป็นเครื่องยืนยันถึงวิสัยทัศน์ SMG Next : Building Tomorrow, Today พัฒนาโครงการภายใต้ค่านิยม Passion : การรักและมีความสุขในสิ่งที่ทำ, Adaptability : การปรับวันนี้เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า และ Contribution : การเป็นผู้ให้อย่างสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
รายละเอียด ออกแบบเป็นอาคารสำนักงาน 33 ชั้น ความสูง 136 เมตร มีพื้นที่ให้เช่าสำนักงานและร้านค้าปลีกรวม 51,000 ตารางเมตร บนถนนพญาไท ในพื้นที่ย่านสยามสแควร์ มีสกายวอล์กเชื่อมแบบไร้รอยต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ฯลฯ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวคิดโคชิของญี่ปุ่น รวมฟังก์ชั่นการใช้งานเข้ากับสุนทรียศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์
นำเสนอผ่านหน้าต่างบานใหญ่จากพื้นจดเพดาน เปิดให้แสงธรรมชาติสาดส่องเข้ามาในพื้นที่ การออกแบบที่ประสานองค์ประกอบทางธรรมชาติเข้ากับภูมิทัศน์ของเมือง เกิดเป็นพื้นที่การทำงานอันเงียบสงบท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองหลวง ตัวอาคารยังมีการผสานสุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากฮิตาชิ และไดกิ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสยามกลการ
อาทิ ระบบความปลอดภัย Hitachi Smart Building Platform การจดจำใบหน้า การจัดการการเข้าถึงแบบอัจฉริยะ และการเฝ้าระวังที่ครอบคลุม, การควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมด้วยเทคโนโลยี VRV (Variable Refrigerant Volume) ของไดกิ้น ระบบปรับอากาศแบบศูนย์รวมอัจฉริยะที่มีคอนเดนซิ่งที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีฟีเจอร์ด้านความยั่งยืน อาทิ เซ็นเซอร์แสงและการเคลื่อนไหว กระจกสะท้อนกันความร้อน สถานีชาร์จ EV ระบบประหยัดน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย และอีกมากมาย
ดีไซน์อย่างประณีตทั้งหมดนี้ ทำให้โครงการได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED ระดับโกลด์, Fitwel ระดับ 1 ดาว, WiredScore ระดับแพลทินัม มาตรฐานรับรองการเชื่อมต่อดิจิทัลที่สูงที่สุดในระดับสากล โดยถือเป็นอาคารแห่งที่สองในประเทศไทย และ SmartScore ระดับโกลด์ เน้นย้ำการบูรณาการเทคโนโลยีอัจฉริยะขั้นสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หนึ่งในไฮไลต์สยามปทุมวัน เฮ้าส์ ก้าวข้ามแนวคิดออฟฟิศบิลดิ้งแบบดั้งเดิม สู่การเป็นศูนย์กลางสุดมีชีวิตชีวาที่ผสมผสานทั้งศิลปะ การออกแบบ และไลฟ์สไตล์ เข้าไว้ด้วยกัน อาทิ ร้านค้าปลีกบนชั้นล็อบบี้ (L) ชั้น M ชั้น 5 ศูนย์อาหารบนชั้น 6 และ Club Siam ชั้น 11 (Amenities Floor) บริหารพื้นที่โดยโกลว์ฟิช พันธมิตรของสยามกลการ และผู้ให้บริการสำนักงานสำเร็จรูประดับไฮเอนด์ในเครือเฮอริเทจ เอสเตทส์ เป็นต้น
ปัจจุบันสยามปทุมวัน เฮ้าส์ ได้เป็นบ้านให้กับบริษัทชั้นนำหลายแห่ง อาทิ สยามดนตรียามาฮ่า, นิสสัน เทรดดิ้ง, ไดกิ้น, คริสเตียน ลูบูแตง, ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์, แอกซ่า ประกันภัย, บิวเทรี่ยม, อันเดอร์ อาร์เมอร์ และอีกมากมาย
กลุ่มสยามกลการ มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศไทยผ่านบริษัทในเครือ 69 แห่งทั้งในและต่างประเทศ เรามีการขยายธุรกิจไปยัง 6 ประเทศทั่วอาเซียน วันนี้เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แนะนำสยามปทุมวัน เฮ้าส์ และหวังว่าจะเป็นแบบอย่างให้กับอนาคตของพื้นที่สำนักงานที่ส่งเสริมนวัตกรรม ความยั่งยืน และสภาพแวดล้อมการทำงานที่สมดุลสำหรับทุกคน คำกล่าวของประกาสิทธิ์ พรประภา
9/10/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 9 ตุลาคม 2567 )