ไม่บ่อยครั้งนักที่ดีเวลอปเปอร์จะเจอขุมทรัพย์การลงทุน และเมื่อเจอแล้วก็จะต้องไปให้สุดทาง คำนิยามความสำเร็จของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ดาวรุ่ง 2 ดวง แอสเซทไวส์ กับ ไทเทิล พร็อพเพอร์ตี้ บนทำเลน่านฟ้าภูเก็ต ณ นาทีนี้
ล่าสุด เพิ่งประกาศแผนลงทุนใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 15,500 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/67 ต่อเนื่องไปถึงต้นไตรมาส 1/68 (เข้าใจว่าต้องขยักไปลงทุนปีหน้า 1 โครงการ วัตถุประสงค์ให้เป็นบันทึกของปี 2568 เพื่อไม่ให้ปีนี้กลุ่มแอสเซทไวส์และไทเทิลลงทุนร้อนแรงจนเกินไป)
เมื่อนับรวมกับการลงทุนของ 2 ดาวฤกษ์อสังหาฯ ในช่วงปี 2566-2567 ที่เปิดไซต์ตอกเสาเข็มลงทุนกันไปแล้ว 4 โครงการ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท เบ็ดเสร็จเท่ากับมีการลงทุนใหม่รวมกัน 15,500+16,000 = 31,500 ล้านบาท ใครไม่อิจฉา ยกมือขึ้น
Q4/67 เร่งลงทุนดักไฮซีซั่น
แม้ปี 2567 จะเป็นปีที่ยากลำบากของภาคธุรกิจที่อยู่อาศัยทั่วไทย เพราะวิกฤตเศรษฐกิจที่พูดกันทุกปีว่าตกท้องช้าง แต่ก็ยังไม่สามารถพลิกฟื้นตลาดรวมได้สักที นับตั้งแต่สถานการณ์โควิด สงคราม และความเชื่อมั่นตลาดทุนตกต่ำ
แต่มีทำเลซูเปอร์สตาร์อยู่ 1 ทำเลบนแผนที่ประเทศไทย เกาะภูเก็ต พื้นที่ไข่มุกอันดามันที่มีกำลังซื้อหนาแน่นมาจากลูกค้าชาวต่างชาติ โดยซื้อแบบถูกต้องตามกฎหมายไทย 100% เพราะไม่ได้ซื้อแบบโอนกรรมสิทธิ์ หรือ Freehold หากแต่ซื้อแบบสิทธิการเช่าระยะยาว หรือ Leasehold
โดย นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ-We Build Happiness ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาในปี 2566 ASW ประสบความสำเร็จในการเข้าถือหุ้นสัดส่วน 67.94%
ในบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ Title หนึ่งในเจ้าตลาดโครงการ Leisure Residences ในภูเก็ต ภายใต้การนำของ ดรงค์ หุตะจูฑะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้
พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ เดอะ ไทเทิล-The Title ที่มีประสบการณ์ 12 ปี ครอบคลุม 3 หาดศักยภาพสูง บางเทา ในยาง ราไวย์ ถูกจริตกับดีมานด์ลูกค้าพักระยะยาวหรือลองสเตย์ และท่องเที่ยวระยะสั้น
ปฏิบัติการทิ้งทวนการลงทุนช่วงไตรมาส 4/67 ด้วยการประกาศแผนพัฒนาใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 15,500 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.เดอะ ไทเทิล เชียโล่ ราไวย์ มูลค่า 1,200 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 90% หลังเปิดขาย 1 สัปดาห์ 2.เดอะ โมเดวา มูลค่า 6,200 ล้านบาท 3.เดอะ ไทเทิล อาร์ทริโอ บางเทา มูลค่า 2,600 ล้านบาท และ 4.คาตาเบลโล ทำเลหาดกะตะ มูลค่า 5,500 ล้านบาท มีแผนเปิดพรีเซลต้นปี 2568
ASW เชื่อมั่นว่าการรีวิวแผนธุรกิจโดยเพิ่มการลงทุนครั้งนี้ จะช่วยผลักดันยอดขายโครงการในภูเก็ตช่วงไฮซีซั่นปีนี้ คาดหวังยอดขายเพิ่มอีก 5,000 ล้านบาท
Heaven Bestination
ปัจจุบัน ASW และ Title มีพอร์ตลงทุนคอนโดมิเนียมทั้งสิ้น 8 โครงการ มูลค่ารวม 31,500 ล้านบาท
วันนี้เราได้พิสูจน์แล้วว่า กลยุทธ์ Expand ขยายทำเลมายังภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งคีย์ซักเซสที่ช่วยสร้างการเติบโตให้กับเครือแอสเซทไวส์ได้อย่างมั่นคง ตามแผน The New Frontiers ที่เราประกาศไว้ตอนต้นปีที่ผ่านมา
กิมมิกนอกจากมิติด้านการเติบโตในโมเดล วิน-วิน ทั้ง ASW และ Title แล้ว บริษัทต้องการพัฒนาแบรนด์ The Title ให้เป็นเสมือน Heaven Bestination จุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกอยากมาสัมผัสประสบการณ์และใช้ชีวิตด้วย ตกผลึกออกมาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ ควบคู่กับการสร้างสรรค์ Community ที่แข็งแกร่ง เพื่อให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนสำหรับทุกคน
เหลียวกลับมาดูตัวเลขรัว ๆ ช่วง 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน 2567) ภายใต้ร่มเงา ASW+Title ผลักดันยอดขายสะสม 14,578 ล้านบาท ในจำนวนนี้คิดเป็นสัดส่วนที่มาจากพอร์ตของ Title 43% ของยอดขายสะสม
ในขณะที่ Title มีแบ็กล็อก (ยอดขายรอโอน) สะสมทั้งสิ้น 8,022 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 25 ตุลาคม 2567) และทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/67 เป็นต้นไป โดยเป็นยอดรับรู้รายได้หรือยอดโอนจากคอนโดฯแบรนด์ดัง ไทเทิล ฮาโล 1 ส่วนที่เหลือของตัวเลขแบ็กล็อก ตามแผนคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้โครงการอื่น ๆ ต่อเนื่องจนถึงปี 2570
ได้เวลาห้องชุด Pet Friendly
ผู้บริหารอีกราย เวคิน ตั้งกุลวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ Title ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต ในเครือแอสเซทไวส์ กล่าวว่า โมเดลการลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับ Strategic Locations ที่หาดบางเทา
เนื่องจากเป็นทำเลที่มีความงดงามของหาดทรายสีขาวละเอียด ชายหาดทอดตัวยาวตัดกับน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านอาหาร แหล่งไลฟ์สไตล์ สถานศึกษา โรงพยาบาล และแหล่งกิจกรรมมากมาย รองรับความต้องการของสมาชิกทุกวัยในครอบครัว
เรื่องใหม่ของไตรมาส 4/67 เป็นครั้งแรกของแบรนด์ The Title ที่พัฒนาคอนโดฯ ในคอนเซ็ปต์ Pet Friendly โดยจัดโซนเฉพาะภายในโครงการ ตอบโจทย์คนรักสัตว์ ให้คนและสัตว์เลี้ยงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ตอกย้ำแบรนด์โครงการ The Title เป็น Heaven Bestination ของทุกคน
ยกตัวอย่างโครงการ เดอะ ไทเทิล อาร์ทริโอ บางเทา ออกแบบเป็นห้องชุดโลว์ไรส์ สูง 7 ชั้น จำนวน 3 อาคาร และ Pet Friendly อีก 1 อาคาร รวม 435 ยูนิต บนที่ดิน 6 ไร่ ติดพอร์โต เดอ ภูเก็ต มีห้องชุดให้เลือกแบบ 1-2 ห้องนอน และห้องชุดดูเพล็กซ์ (มีบันไดขึ้นลง) พื้นที่ใช้สอย 28-132 ตร.ม.
พื้นที่ส่วนกลาง 41 รายการในโซนเอาต์ดอร์ เช่น Feature Art Wall, Sculptural Playground, Waterfall, Floating Pool Terrace และอินดอร์ อาทิ Health Care, Live Studio, Library Lounge, Kid Space, Onsen, Boxing Area
รวมถึงโซนสำหรับสัตว์เลี้ยง Pet Grooming และ Pet Pool & Playground ในอาคาร Pet Friendly ราคาเริ่มต้น 4.23-19.67 ล้านบาท
จิ๊กซอว์สำคัญ-The Esquire
ยกตัวอย่างอีกสักโครงการ เดอะโมเดวา ห้องชุดโลว์ไรส์ 7 ชั้น จำนวน 6 อาคาร และ Pet Friendly อีก 1 อาคาร รวม 859 ยูนิต บนที่ดินรวม 15 ไร่ ใกล้หาดบางเทา 500 เมตร เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่จึงนำเสนอห้องชุดให้เลือกถึง 11 แบบ พื้นที่ใช้สอย 29-148 ตร.ม. และห้องเพนต์เฮาส์ 148 ตร.ม.
จัดหนักกับพื้นที่ส่วนกลาง 7,458 ตร.ม. ทั้งโซนอินดอร์ 26 รายการ เช่น Business Lounge, Cokitchen, Health Center, Salon, Kids Club, Theater Room, Onsen และโซนเอาต์ดอร์ 33 รายการ อาทิ สระว่ายน้ำโอบล้อมทุกอาคาร, Hydrotherapy, Private Outdoor Living Lounge พร้อมโซนพิเศษ Pet Grooming และ Pet Zone ในอาคาร Pet Friendly ราคาเริ่มต้น 4.1-18.7 ล้านบาท
บริษัทยังลงทุนต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจให้ครบวงจร ด้วยการเปิดตัวธุรกิจบริการหลังการขาย หรือพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์ ภายใต้แบรนด์ The Esquire บริหารจัดการทั้งทีมนิติบุคคลอาคารชุด บริการจัดหาและประสานผู้เช่า บริการซักรีด และบริการทำความสะอาดภายในห้องพัก
นักท่องเที่ยวต่างชาติล้นเกาะ
สุดท้าย พัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล เลขาธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ฉายภาrตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตปี 2567 ได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการเดินทางเข้ามาของชาวต่างชาติ อ้างอิงข้อมูลศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. (REIC) ประเมินแนวโน้มปีนี้จะมีการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและคอนโดฯ รวม 33,730 ล้านบาท ขยายตัว 7.1% เมื่อเทียบกับปี 2566
โฟกัสยอดขายใหม่สินค้าคอนโดฯ ในครึ่งปีแรก 2567 มีจำนวน 4,497 หน่วย ขยายตัวปรอทบวมที่ 259.8% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2566 มูลค่า 40,190 ล้านบาท เติบโต 799% ทำเลฮิตกระจุกที่ หาดบางเทา-หาดสุรินทร์ 2,202 หน่วย สัดส่วน 48.97% ของหน่วยขายได้ใหม่ในภูเก็ต
โดยคีย์ซักเซสมาจากกำลังซื้อลูกค้าต่างชาติ ที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบการขายแบบสิทธิการเช่าระยะยาว ทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนซื้อเพื่อเป็นบ้านตากอากาศ และซื้อเพื่อการลงทุนสร้างผลตอบแทนปล่อยเช่าอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ที่สำคัญเป็นกำลังซื้อที่มีศักยภาพสูง
อัพเดตสถิติ ณ เดือนกันยายน 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยือนภูเก็ตแล้ว 7.36 ล้านคน เติบโต 22.57% ให้ความนิยมท่องเที่ยวครบทั้ง 13 หาดหลักของภูเก็ต จุดโฟกัสอยู่ที่เป็นนักเที่ยวกระเป๋าหนัก ใช้จ่ายวันละ 8,000 บาท/คน/วัน
ภูเก็ตจึงถือเป็นขุมทรัพย์การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่คาดว่ายังตักตวงได้อีกนาน ตราบใดที่ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่นักท่องเที่ยวต่างชาติใฝ่ฝันมาเยือนให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
31/10/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 31 ตุลาคม 2567 )
