ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย และไม่มีอะไรพลิกโผ สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน 2567) ของค่ายแสนสิริ
บริษัทก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 วงการอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มผู้ประกอบการบิ๊กแบรนด์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
วิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรก 2567 มีรายได้รวม 28,877 ล้านบาท เติบโต 4.7% เทียบกับ 9 เดือนแรก 2566 แบ่งเป็นรายได้รวมเฉพาะไตรมาส 3/67 จำนวน 9,415 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้จากการขายโครงการในไตรมาส 3 พบว่าสัดส่วน 2 ใน 3 ยังคงมาจากบ้านแนวราบ จากแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักเซอรี่และซูเปอร์ลักเซอรี่ที่แสนสิริเป็นเจ้าตลาด ทั้งการโอนต่อเนื่องของโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา, บูก้าน กรุงเทพกรีฑา, เศรษฐสิริ ดอนเมือง, เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ และเศรษฐสิริ วงแหวน-จตุโชติ
ในส่วนรายได้คอนโดมิเนียมทยอยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์แสนสิริที่มีมาอย่างยาวนาน รวมถึงคุณภาพและบริการที่เป็นที่ยอมรับ ทำให้สินค้าพร้อมขายหรือ RTM-Ready to Move ณ สิ้นเดือนกันยายนเหลือเพียง 6,900 ล้านบาท อยู่ในระดับที่ต่ำมากหากเทียบกับสินทรัพย์รวมของบริษัท และต่ำที่สุดในตลาด
บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 9 เดือนอยู่ที่ 4,009 ล้านบาท แบ่งเป็นกำไรสุทธิเฉพาะไตรมาส 3/67 จำนวน 1,307 ล้านบาท สะท้อนกระแสตอบรับที่ดีจากคอนโดฯ พร้อมอยู่ทั้งฐานกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติที่ต้องการคอนโดฯ ในเมืองและหัวเมืองท่องเที่ยว
นอกจากนี้ แสนสิริมีส่วนแบ่งกำไรจากโครงการร่วมทุน (JV-Joint Venture) ระหว่าง แสนสิริ และ แรบบิท โฮลดิ้งส์ ในกลุ่มบีทีเอส เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในไตรมาส 3/67 และรอบ 9 เดือน ผ่านการโอนคอนโดฯ เดอะ ไลน์ ไวบ์ มูลค่าโครงการ 4,400 ล้านบาท เป็นคอนโดฯพร้อมอยู่ที่มียอดขายแล้ว 75% บนสุดยอดทำเลศักยภาพตรงข้ามเซ็นทรัลลาดพร้าว นับเป็นผลการดำเนินงานที่เติบโตตาม Business Direction ที่วางไว้
บริษัทมีกระแสเงินสดหมุนเวียนมากกว่า 15,000 ล้านบาท เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจและจ่ายคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดปีนี้ โดยไม่จำเป็นต้องออกหุ้นกู้ชุดใหม่ สะท้อนถึงศักยภาพในการบริหารการเงินของบริษัทที่ดีได้เป็นอย่างดี
สำหรับโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงที่เหลืออีก 1 เดือนเศษของปีนี้ จะเน้นโครงการระดับไฮเอนด์ อาทิ ณริณสิริ แบรนด์ใหม่ล่าสุดใน 2 โครงการ, เศรษฐศิริ บางนา กม. 10 และงามวงศ์วาน รวมถึง เดอะ เทลส์ สตอรี่ วัน-บางโจ พูลวิลล่า โครงการใหม่ในภูเก็ต ซึ่งเป็น Strategic Location ที่ยังมีเรียลดีมานด์อย่างต่อเนื่องและลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี
ล่าสุด แสนสิริประสบความสำเร็จจากงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกเซ็กเมนต์ ส่งผลให้สร้างยอดขายได้ถึง 2,000 ล้านบาท ทุบสถิติสร้างประวัติศาสตร์ใหม่จากการจัดงานที่ผ่านมา รับบรรยากาศตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐและเทรนด์ดอกเบี้ยขาลง
ส่งผลให้ยอดขายสะสมตั้งแต่ต้นไตรมาส 4/67 ถึงปัจจุบันสูงถึง 5,000 ล้านบาท คาดว่ายอดขายจากแคมเปญ เว่อร์วัง อลังเซล รวมถึงการเปิดตัวอีก 11 โครงการใหม่ในช่วงที่เหลือของปี จะส่งผลให้ยอดขายทั้งปีเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
16/11/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 16 พฤศจิกายน 2567 )