แสนสิริ เผยยอดขายคอนโดฯ 8 เดือนแรกปีนี้ ทะลุ 14,000 ล้านบาท เติบโต 40% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความสำเร็จกลยุทธ์ Strategic Location โค้งสุดท้ายของปีรุกหนักสวนกระแสตลาด ลุยโอน 5 คอนโดฯพร้อมอยู่ มูลค่ารวม 6,600 ล้านบาท พร้อมพรีเซล 4 คอนโดฯใหม่ มูลค่ารวม 12,120 ล้านบาท
นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนแรก (มกราคม-สิงหาคม 2568) แสนสิริสร้างยอดขายคอนโดฯแล้วกว่า 14,000 ล้านบาท เติบโต 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากความสำเร็จของโครงการ บนทำเล Strategic Location อาทิ พีทีวาย เรสซิเดนซ์ สาย 1 แฟลกชิปคอนโดมิเนียม บนถนนเลียบหาดพัทยาสาย 1 (พัทยากลาง) ที่สามารถปิดการขายในวันพรีเซลได้หมดภายใน 3 ชั่วโมง ด้วยยอดขาย 3,300 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากคอนโดมิเนียมในเมืองท่องเที่ยวทุกโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการในภูเก็ต ได้แก่ เดอะ เบส เชิงทะเล, เดอะ เบส ไรส์ ภูเก็ต, เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต, แคนวาส เชิงทะเล และปิดการขายเพิ่มอีก 3 โครงการ ได้แก่ เนีย บาย แสนสิริ, พินน์ ศูนย์วิจัย และ ดีคอนโด รีฟ ภูเก็ต
สำหรับช่วง 4 เดือนที่เหลือของปี แสนสิริเดินหน้าลุยส่งมอบคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ เพื่อสนับสนุนยอดขายและรับรู้รายได้ทันที
ปัจจุบันมียอดโอนแล้วกว่า 7,000 ล้านบาท และทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากการโอนคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,600 ล้านบาท
นำร่องด้วย โฟล บาย แสนสิริ คอนโดฯวิวแม่น้ำ เพียง 350 เมตร ถึง BTS คลองสาน เพียง 3 นาที ถึง ICONSIAM เริ่ม 3.29 ล้านบาท ปัจจุบันสร้างยอดขายแล้วกว่า 70%
นอกจากนี้ยังมีโครงการพร้อมส่งมอบอย่างต่อเนื่อง อาทิ ดีคอนโด คาล์ม รามคำแหง 40 และเดอะ มูฟ พอว์ บางแค
และในไตรมาส 4/68 แสนสิริจ่อคิวโอนอีก 2 โครงการไฮไลต์ บนทำเลศักยภาพใน Strategic Location ของภูเก็ตและเชียงใหม่ ได้แก่ แคนวาส เชิงทะเล ภูเก็ต ลักเซอรี่คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ล่าสุดเฉพาะภูเก็ตเท่านั้น เริ่ม 8.9 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 60%
และ เมคิน เฮาส์ (เชียงใหม่) โครงการแรกภายใต้แบรนด์ HAUS ในเชียงใหม่และต่างจังหวัด มาพร้อมกับไฮไลต์คอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในเชียงใหม่ เพียง 200 เมตร จากเซ็นทรัล เฟสติวัล* เริ่ม 4.19 ล้านบาท ปัจจุบันสร้างยอดขายแล้วกว่า 70%
นายองอาจกล่าวต่อว่า ในช่วง 4 เดือนที่เหลือ แสนสิริเตรียมเปิดพรีเซลคอนโดฯใหม่อีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 12,120 ล้านบาท เพื่อผลักดันยอดขายและเพิ่ม Backlog สนับสนุนรายได้ระยะยาว ซึ่งเป็นหนึ่งในคีย์ไดรเวอร์สำคัญขับเคลื่อนองค์กร โดยแต่ละโครงการมีจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจ
จุดโฟกัสอยู่ที่ 3 โครงการไฮไลต์ ได้แก่ 1.เดอะ เบส เออร์เบิร์น พระราม 9 คอนโดฯใหม่ขายพร้อมโอน บนทำเลเชื่อมต่อพระราม 9-เพชรบุรี-ทองหล่อ เริ่ม 3.79 ล้านบาท 2.ไวด์เด็น บาย แสนสิริ คอนโดฯใหม่บนทำเลนางลิ้นจี่ เพียง 5 นาทีถึงสาทร เริ่ม 8.9 ล้านบาท
และ 3.เซลฟ์ บาย แสนสิริ คอนโดฯใหม่ใจกลางพระราม 4 ติดรถไฟฟ้า เริ่ม 3.59 ล้านบาท พร้อมสานต่อความสำเร็จคอนโดมิเนียมในเมืองภูเก็ต เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่บนทำเลกะทู้ ภูเก็ต
มากกว่า 40 ปีในวงการอสังหาริมทรัพย์ แสนสิริได้เผชิญกับความท้าทายและวิกฤตมานับไม่ถ้วน ซึ่งวิกฤตกับโอกาสเป็นของคู่กัน ทุกวิกฤตทำให้เราแข็งแกร่ง และเติบโตขึ้น กับ 5 กลยุทธ์สำคัญ สู่ความสำเร็จ ได้แก่ การพัฒนาคอนโดมิเนียมบน Strategic Location และการกระจาย Portfolio ให้ครอบคลุม
โดยแสนสิริให้ความสำคัญกับการเลือกทำเลที่ตั้งโครงการในจุดยุทธศาสตร์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกเซ็กเมนต์ ครอบคลุมทุกโปรดักต์ ทุกระดับราคา ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าในแต่ละทำเล
โดยเน้นในจังหวัดหัวเมืองหลัก เมืองท่องเที่ยว แหล่งงานและแหล่งการศึกษา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง
กลยุทธ์ Speed To Market แสนสิริพร้อมเปลี่ยนแปลงและปรับตัวไวรองรับทุกสถานการณ์ เพื่อบริหารจัดการต้นทุนอย่างเหมาะสมและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยที่เปี่ยมด้วยคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า
ควบคู่กับการเน้นย้ำด้าน Quality & Service มุ่งมั่นพัฒนาโครงการคุณภาพ และส่งมอบการดูแลตลอดการอยู่อาศัย ผ่านการบริหารจัดการด้วยทีมงานมืออาชีพ จากบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้
และการผนึกพันธมิตรที่แข็งแกร่ง อย่างสถาบันการเงิน ที่ช่วยนำเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษแก่ลูกค้าแสนสิริ และทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น
รวมถึงพาร์ตเนอร์ผู้รับเหมาแนวหน้าของไทย ที่มีมาตรฐานการทำงานระดับนานาชาติ ทั้งการก่อสร้าง คุณภาพและความปลอดภัย เพื่อส่งมอบโครงการคุณภาพให้กับลูกค้าแสนสิริ
พร้อมกับให้ความสำคัญต่อการดูแลสังคมและเป็นพลเมืองดี หรือ Good Citizen ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 เสาหลักขององค์กร และเน้นย้ำพันธกิจ Sustainability เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม องอาจ แชร์กลยุทธ์นำพากลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมสู่ความสำเร็จ
แสนสิริมั่นใจว่าจะยังคงรักษาระดับการเติบโตพอร์ตคอนโดฯ ได้ตามเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ 19,000 ล้านบาท พร้อมครองตำแหน่งผู้นำตลาดอันดับหนึ่งต่อเนื่อง ร่วมสร้างความเชื่อมั่น และไม่หยุดนิ่งผลักดันการเติบโตของภาคอสังหาฯไทย ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับสังคมและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
9/9/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 9 กันยายน 2568 )
