เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก 3 จังหวัด ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ถูกสปอตไลต์การลงทุนเริ่มกลับมาฉายส่องอีกครั้งหลังยุคโควิด
อาจกล่าวได้ว่าถนนการลงทุนทุกสายเริ่มปรับเข็มทิศการทำธุรกิจเข้าสู่ EEC ระลอกใหม่อีกครั้ง โดยพบด้วยว่าแม้ผ่านสถานการณ์โควิด บวกกับสารพัดวิกฤตเศรษฐกิจรุมเร้า แต่ราคาที่ดินไม่เคยลดลงแต่อย่างใด
เลียบหาดพัทยาแชมป์ 6.1 แสน
ก่อนหน้านี้ ประชาชาติธุรกิจ นำเสนอ 30 ถนนหลักที่กรมธนารักษ์ปรับราคาประเมินและมีราคาสูงสุดใน 3 จังหวัด EEC โดยพบว่า ราคาประเมินของรัฐทำเลเดียวกันบนถนนเลียบหาดพัทยาอยู่ที่ 2.2 แสนบาท/ตารางวา ขณะที่มีราคาตลาดหรือราคาซื้อขายสูงกว่า 3 เท่า อยู่ที่ 6.1 แสนบาท/ตารางวา
ในด้านราคาที่ดินและตลาดที่อยู่อาศัยภาคตะวันอก ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด หรือ AREA เปิดข้อมูลราคาที่ดิน 29 จุดสำคัญ
เปิดประเด็นด้วยทำเลราคาที่ดินแพงสุดตามราคาตลาดในภาคตะวันออก อยู่ถนนเลียบชายหาดพัทยา ราคา 610,000 บาท/ตารางวา โดยราคาที่ดินขึ้นยกแผงเฉลี่ย 7.6%
ส่วนที่อยู่อาศัยยังคึกคักในภาคตะวันออกโดยเฉพาะ ชลบุรี ที่มีหน่วยขายมากที่สุดในประเทศรองจาก กทม.-ปริมณฑล
ขณะที่จังหวัดที่ยังเติบโตช้าคือ ฉะเชิงเทรา แต่ก็ยังติดท็อป 10 จังหวัดที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยสูงสุดของประเทศไทย
ทั้งนี้ ในจำนวน 29 จุดสำคัญในความเห็นของ AREA โดยสำรวจราคาตลาดพบว่า แปลงแพงสุดอยู่ที่ถนนเลียบชายหาด ด้านหน้าโรงแรมอิสตินี่ ตารางวาละ 610,000 บาท เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับปี 2564 (ดูตารางประกอบ)
ตลาดที่อยู่อาศัยรอขยับยกแผง
สำหรับสถิติที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออก ดร.โสภณ ระบุว่า ชลบุรี มี 1,529 โครงการ รวม 259,939 หน่วย มูลค่าโครงการ 732,586 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหน่วยละ 2.818 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 34,172 หน่วย อัตราการขายได้แล้ว 86.9% เฉลี่ยแต่ละเดือนขายได้ 2.3% ของหน่วยขายทั้งหมด
กลุ่มหลักเป็นห้องชุด มีจำนวน 12,157 หน่วย รองลงมา คือ ทาวน์เฮาส์ 11,988 หน่วย
ถัดมา ระยอง มีหน่วยเหลือขายอยู่ 20,530 หน่วย ขายได้แล้ว 72.5% มีอัตราการขาย 2.3% ต่อเดือน ส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์ 8,821 หน่วย รองลงมา บ้านเดี่ยว 5,946 หน่วย และห้องชุด 2,229 หน่วย
และ ฉะเชิงเทรา มีหน่วยขายรอขาย 6,840 หน่วย มีสัดส่วนการขายค่อนข้างต่ำ เฉลี่ยอัตราขายได้ 1.8% ต่อเดือน หน่วยขายกลุ่มใหญ่ที่สุดเป็นทาวน์เฮาส์ จำนวน 2,633 หน่วย จากหน่วยรอขายทั้งหมด 6,840 หน่วย
Q1 ที่อยู่อาศัย 6.3 หมื่นหน่วย
อีกสำนักจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC โดย ดร.วิชัย วิรัตกพันธุ์ รักษาการ ผอ. REIC อัพเดตสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ EEC 3 จังหวัด ไตรมาส 1/65
มีจำนวน 63,892 หน่วย มูลค่า 214,156 ล้านบาท แบ่งเป็น อาคารชุด 20,979 หน่วย บ้านจัดสรร 42,913 หน่วย
ทั้งนี้ ในด้านซัพพลายพบว่า ที่อยู่อาศัยเสนอขายลดลงทั้งหน่วยและมูลค่าเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลัง 2564 เป็นผลมาจากไตรมาสแรกปี 2565 มีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดเพียง 2,956 หน่วย มูลค่า 10,077 ล้านบาท
สถานการณ์หน่วยเหลือขายในพื้นที่ EEC มีจำนวน 56,103 หน่วย มูลค่า 191,220 ล้านบาท เป็นอาคารชุด 19,299 หน่วย มูลค่า 85,088 ล้านบาท
24/7/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (24 กรกฎาคม 2565)