บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ประกาศก้าวแกร่งสู่โรดแมปการดำเนินธุรกิจปี 2567 ทุบสถิติหลากมิติ ทั้งจำนวนโครงการ มูลค่ารวมสูงสุด เป้ายอดขาย และเป้ารายได้
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยขาลง อัตราเงินเฟ้อเริ่มอยู่ตัว การท่องเที่ยวและการส่งออกเริ่มดีขึ้น การลงทุนเริ่มมากขึ้น แต่จะเป็นอีกปีที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะแข่งขันกันเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ?
ปี 2567 แม้ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยคงเผชิญกับปัจจัยท้าทายต่าง ๆ ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มั่นใจว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้น่าจะขับเคลื่อนไปต่อได้ เป็นผลมาจากการปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ความต้องการสินค้าที่อยู่อาศัยโครงการแนวราบยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าระดับกลาง-บน ขณะที่สินค้าในกลุ่มคอนโดมิเนียมเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวกลับมาในทำเลศักยภาพ
ส่วนภาพรวมของศุภาลัยปี 2567 เป็นปีแห่งการขยายศักยภาพในมิติต่าง ๆ ขับเคลื่อนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ทั้งต่างประเทศและในประเทศ เป็นปีที่มีแผนจำนวนเปิดตัวโครงการมากที่สุด มูลค่าโครงการสูงสุด มีเป้ายอดขายสูงสุด มูลค่าโครงการโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด
และสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น ทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ แบบบ้านใหม่ การพัฒนาคุณภาพสินค้า และนวัตกรรมที่อยู่อาศัยรักษ์โลก รวมทั้งเดินหน้าลงทุนในทำเลใหม่ ๆ ที่จะขยายตลาดให้กว้างขึ้น ทำให้ศุภาลัยขยายศักยภาพพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุม 29 จังหวัด เปิดตัวโครงการแล้วรวม 441 โครงการ ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทจนถึงปัจจุบัน
อีกทั้งเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องในประเทศออสเตรเลีย จับมืออสังหาริมทรัพย์แถวหน้าแดนจิงโจ้ Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd ตั้งกิจการร่วมค้าในชื่อ SSRCP HoldCo Pty Ltd อัดเม็ดเงินเพิ่ม 12,600 ล้านบาท พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยขยายเพิ่ม 12 โครงการ มูลค่าโครงการ 137,700 ล้านบาท ใน 4 รัฐ 5 เมืองสำคัญ
ซึ่งทำให้ปัจจุบันบริษัทได้มีการพัฒนาแล้วรวม 24 โครงการ มูลค่าโครงการ 187,700 ล้านบาท คิดเป็นเงินทุนรวมศุภาลัย 22,300 ล้านบาท โดยโครงการที่ซื้อใหม่จะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ เพราะเป็นโครงการที่ได้เริ่มพัฒนาไปส่วนหนึ่งแล้ว
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง ตั้งเป้าใหม่ใหญ่กว่าเดิม พร้อมประกาศลุย All-time High ทั้งการเปิดตัวโครงการและยอดขาย
โดยตั้งเป้ายอดขาย 36,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 36,000 ล้านบาท และงบประมาณจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท
โดยปีนี้ นับเป็นปีที่ทุบสถิติเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุด มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จำนวน 42 โครงการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกโปรดักต์ ทุกเซ็กเมนต์ระดับราคารองรับทุกความต้องการ
โดยบ้านแนวราบเปิดตัวมากสุดถึง 38 โครงการ มูลค่ารวม 43,500 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท พร้อมลุยเปิดตลาดอสังหาฯเพิ่ม 3 จังหวัดใหม่ในทำเลศักยภาพ ได้แก่ ลำปาง ราชบุรี ลพบุรี ทำให้พัฒนาโครงการครอบคลุมในทุกทำเลรวม 29 จังหวัด เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาค
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลงานปี 2566 ที่ผ่านมา เป็นปีที่มีความท้าทายของการดำเนินธุรกิจภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน แต่บริษัทก็สามารถเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง
บริษัทมียอดขายรวม 28,864 ล้านบาท มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียมรวม 26 โครงการ มูลค่ารวม 29,640 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านแนวราบ 23 โครงการ (กรุงเทพฯและปริมณฑล 8 โครงการภูมิภาค 15 โครงการ) และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ
ไฮไลต์ปี 2567 บริษัทเตรียมลุยตลาดอสังหาฯเต็มกำลัง เปิดตัวโครงการแนวราบมากที่สุด ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค ในไตรมาสแรกเปิดตัวมากถึง จำนวน 14 โครงการ มูลค่ารวม 14,990 ล้านบาท พร้อมเดินเกมรุกเพิ่มแชร์ตลาดบ้านเดี่ยวลักเซอรี่ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายมากขึ้นเป็น 56% เทียบจากปีที่ผ่านมา
และมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ๆ อีกทั้งมุ่งพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย สร้างสรรค์แบบบ้านซีรีส์ใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น บุกขยายเจาะทำเลศักยภาพสูง ตอบโจทย์การอยู่อาศัย อาทิ อรุณอมรินทร์ กรุงเทพกรีฑา อุทยาน-อักษะ พุทธมณฑล
นอกจากนี้ การกลับมาเปิดฉากรุกตลาดคอนโดมิเนียม จัดเต็มด้วยฟังก์ชั่นและดีไซน์เฉพาะตัว ในราคาที่คุ้มค่า อีกทั้งร่วมกับพันธมิตรจัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าศุภาลัย อาทิ แคมเปญลูกบ้านศุภาลัยจ่ายดอกเบี้ยปีแรก 0% พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน รุกหน้าสู่เป้าหมายระยะกลางด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2573 จาก BAU (Business As Usual)
คาดว่าปี 2567 นี้ จะเป็นอีกปีที่บริษัทมีการเติบโตทางยอดขาย รายได้ และกำไร ด้วยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุม 29 จังหวัด และมีสินค้าพร้อมอยู่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ความพร้อมทางต้นทุนทางการเงิน เดินหน้าพัฒนาสินค้าและนวัตกรรม การตลาดและการขาย การบริการครบวงจร โฟกัสนโยบายสู่การเป็นกรีนดีเวลอปเปอร์ พัฒนาทุกโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นายไตรเตชะกล่าว
25/1/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 25 มกราคม 2567 )