info@icons.co.th 02 810 8892-6 3.135.190.232

SCG โชว์รายได้ ครึ่งปีแรก 3.05 แสนล้านบาท โต 19%

Residential News / ข่าวหมวดที่พักอาศัย

ผลประกอบการเอสซีจี ไตรมาส 2/65 ยอดขาย 1.52 แสนล้านบาท เติบโต 17% ดันผลประกอบการครึ่งปีแรก มีรายได้จากการขาย 305,028 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%

วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า งบการเงินรวมก่อนสอบทานของเอสซีจี ในไตรมาสที่ 2/2565 มีรายได้จากการขาย 152,534 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากช่วงเดียวกันของปี 2564 มีกำไร 9,937 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 42 เทียบกับไตรมาส 2/2564

เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบของธุรกิจเคมิคอลปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมของธุรกิจเคมิคอลลดลง อย่างไรก็ตาม กำไรประจำไตรมาสเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาส 1/2565 จากเงินปันผลรับจากการลงทุนในธุรกิจอื่น

ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 มีรายได้จากการขาย 305,028 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 มีกำไร 18,781 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากต้นทุนวัตถุดิบของธุรกิจเคมิคอลที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง ซึ่งผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก 2564 ธุรกิจปิโตรเคมีได้รับอานิสงส์จากวิกฤตฤดูหนาวที่รุนแรงในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้กำลังการผลิตในตลาดโลกลดลง

ครึ่งปีแรก 2565 เอสซีจีมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มหรือ HVA-High Value Added Products & Services 104,332 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34 มีสัดส่วนการพัฒนาสินค้าใหม่ (New Products Development-NPD) สัดส่วนรอ้ยละ 17 และ Service Solution เช่น ปูนงานโครงสร้าง เอสซีจี สูตรไฮบริด ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Hybrid Cement) กระเบื้องยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย (Hygienic Tiles) ร้อยละ 5

นอกจากนี้ มีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศรวมการส่งออกจากประเทศไทย ในครึ่งปีแรกของปี 2565 ทั้งสิ้น 135,822 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 45 ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีมูลค่า 903,137 ล้านบาท โดยร้อยละ 45 เป็นสินทรัพย์ในอาเซียน (นอกเหนือจากประเทศไทย)

ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ครึ่งปีแรกปี 2565 แยกตามรายธุรกิจ ดังนี้

“ธุรกิจเคมิคอล หรือ SCGC” ในไตรมาสที่ 2/2565 มีรายได้จากการขาย 66,789 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3 จากไตรมาส 1/65 แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากไตรมาส 2/64 มีกำไรสำหรับงวด 3,704 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากไตรมาส 1/65 แต่ลดลงร้อยละ 64 จากไตรมาส 2/64 จากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น

ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 SCGC มีรายได้จากการขาย 135,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 จากไตรมาส 2/64 มีกำไรสำหรับงวด 7,292 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 62 จากไตรมาส 2/64

“ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง” ในไตรมาสที่ 2/2565 มีรายได้จากการขาย 52,881 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากไตรมาส 2/64 มีกำไรสำหรับงวด 1,668 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 32 จากไตรมาส 2/64 ในขณะที่ลดลงร้อยละ 28 จากไตรมาส 1/65

ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 มีรายได้จากการขาย 103,771 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาส 2/64 มีกำไรสำหรับงวด 3,976 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 25 จากไตรมาส 2/64

“SCG” ในไตรมาสที่ 2/2565 มีรายได้จากการขาย 37,982 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 จากไตรมาส 2/64 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากไตรมาส 1/65 มีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร ในกลุ่มสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะประเทศเวียดนาม

และการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ในประเทศฟิลิปปินส์ (UPPC 3) การปรับราคาสินค้าให้สะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเติบโตของธุรกิจเยื่อและกระดาษ จากการเพิ่มขึ้นของทั้งราคาเยื่อกระดาษ และยอดขายบรรจุภัณฑ์อาหาร มีกำไรสำหรับงวด 1,856 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18 จากไตรมาส 2/64 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาส 1/65

ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 SCGP มีรายได้จากการขาย 74,616 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 จากไตรมาส 2/64 มีกำไรสำหรับงวด 3,514 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 20 จากไตรมาส 2/64

SCG 5 กลยุทธ์ครึ่งปีหลัง

นายรุ่งโรจน์กล่าวต่อว่า ครึ่งปีหลังเอสซีจีดำเนินการ 5 กลยุทธ์ ประกอบด้วย “ลดต้นทุน เพิ่มพลังงานทางเลือก-พัฒนานวัตกรรม สินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มใหม่ ๆ-เพิ่มสภาพคล่องการเงิน-คุมเข้มการลงทุนตามกลอย่างรอบคอบ-เดินหน้า ESG 4 Plus” มีรายละเอียด ดังนี้

1.ลดต้นทุน เพิ่มพลังงานทางเลือก ด้วยการใช้เทคโนโลยีเพื่อการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ลดของเสียจากการดำเนินงาน และเร่งเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทางเลือก อาทิ เชื้อเพลิงชีวมวล พลังงานแสงอาทิตย์ ปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้พลังงานทางเลือกร้อยละ 16.4

2.พัฒนานวัตกรรม สินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มใหม่ ๆ ต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแตกต่าง เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน นวัตกรรมเคมีภัณฑ์ อาทิ “พลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงชนิดไร้กลิ่น” (High Quality Odorless PCR) สำหรับบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกของสินค้าที่ต้องการเน้นกลิ่นหอมโดยเฉพาะ “สารเคลือบชั้นฟิล์มป้องกันการซึมผ่านของอากาศ” (Barrier Coating Technology) ช่วยทดแทนการใช้วัสดุที่หลากหลายของบรรจุภัณฑ์ ให้เหลือเพียงพลาสติกประเภทเดียวกันทั้งชิ้นงาน (Mono-Material) จึงรีไซเคิลได้ง่าย

นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ดี เช่น “SCG HVAC Air Scrubber” ระบบบำบัดอากาศเสีย ลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศสำหรับอาคารขนาดใหญ่ ประหยัดค่าไฟได้ร้อยละ 20-30 “กระเบื้องยับยั้งแบคทีเรีย ก๊อกน้ำและสุขภัณฑ์ไร้สัมผัสและสุขภัณฑ์เคลือบสาร Ultraclean+” COTTO Health& Clean ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย

นวัตกรรมการก่อสร้าง ภายใต้แบรนด์ “CPAC Green Solution” ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับโซลูชั่นการก่อสร้างใหม่ ๆ อาทิ Farm Solution บริการออกแบบและก่อสร้างฟาร์มครบวงจร เสร็จไว ได้มาตรฐานตามหลักความปลอดภัยทางชีวภาพ (Bio Security) และ Gas Station Solution บริการออกแบบและก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันแบบครบวงจร นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ อาทิ “เฟสท์ ชิลล์” บรรจุภัณฑ์อาหารทำจากกระดาษ เคลือบฟิล์มลอกออกได้ สะดวกต่อการรีไซเคิลและย่อยสลายได้ ดีไซน์แข็งแรงเหมาะกับการดีลิเวอรี่

3.เพิ่มสภาพคล่องการเงิน บริหารเงินทุนหมุนเวียนให้อยู่ในระดับเหมาะสม บริหารปริมาณสินค้าคงคลังให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ติดตามการให้สินเชื่อการค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงเสริมสภาพคล่องโดยการดำเนินการออกหุ้นกู้ ในรูปแบบหุ้นกู้ดิจิทัลของ SCGP ในวันที่ 1 สิงหาคม 2565

4.คุมเข้มการลงทุนตามกลยุทธ์อย่างรอบคอบ ทบทวนการลงทุน ชะลอโครงการใหม่ที่ไม่เร่งด่วนหรือใช้ระยะเวลายาวนานกว่าจะได้ผลตอบแทน โฟกัสโครงการที่ได้ผลตอบแทนเร็วและสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจ อาทิ ปิโตรเคมีครบวงจร Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) ที่เวียดนาม มีความคืบหน้าตามแผนร้อยละ 96 พร้อมดำเนินการเชิงพาณิชย์ในครึ่งปีแรกของปี 2566

ล่าสุด SCGP ได้ขยายการลงทุนในธุรกิจรีไซเคิลวัสดุบรรจุภัณฑ์ (Packaging Materials Recycling Business) ใน Peute Recycling B.V. ผู้ดำเนินธุรกิจรีไซเคิลวัสดุบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ และลงทุนใน Imprint Energy Inc. สหรัฐอเมริกา ธุรกิจเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่ผลิตด้วยการพิมพ์ (Printed battery) มีศักยภาพในการเติบโต สามารถนำความรู้ความเชี่ยวชาญมาขยายสู่ภูมิภาคอาเซียนได้ในอนาคต รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาใช้ในสำหรับบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะได้ด้วย

5.เดินหน้า ESG ด้วยแนวทาง ESG 4 Plus (มุ่ง Net Zero-Go Green-Lean เหลื่อมล้ำ-ย้ำร่วมมือ ภายใต้ความเชื่อมั่น โปร่งใส) โดยในครึ่งปีแรกของปี 2565 มียอดขายนวัตกรรมรักษ์โลก ภายใต้ฉลาก SCG Green Choice เท่ากับ 153,240 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50 ของยอดขายรวม

เอสซีจีมุ่งลดความเหลื่อมล้ำให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยมีผู้เข้าร่วมในครึ่งปีแรก 2565 จำนวน 4,366 คน ครอบคลุมใน 3 มิติ ประกอบด้วย การฝึกอาชีพสร้างรายได้ยั่งยืน เช่น เสริมทักษะให้ความรู้เพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชน ฝึกอาชีพคนพิการ ฝึกทักษะช่างปรับปรุงที่อยู่อาศัย

ฝึกอาชีพที่ตลาดต้องการแก่เยาวชน การยกระดับทักษะฝีมือเพื่อความมั่นคงทางอาชีพ เช่น ผู้รับเหมาก่อสร้าง และการขยายโอกาสในการทำงาน เช่น ให้สินเชื่อผู้รับเหมาเพื่อเสริมสภาพคล่องซื้อวัสดุก่อสร้าง โดยบริษัท สยาม เซย์ซอน

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2565 ในอัตรา 6.0 บาทต่อหุ้น เป็นเงิน 7,200 ล้านบาท กำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 กำหนดผู้ที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผล (XD) ในวันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2565 นายรุ่งโรจน์กล่าว

28/7/2565  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (28 กรกฎาคม 2565)

Youtube Channel