ลุยจัดงาน สถาปนิก65 26 เมษายน 1 พฤษภาคม 2565 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี หนุนอุตสาหกรรมออกแบบ - ก่อสร้างเติบโต คาดเงินสะพัด 2 หมื่นล้านบาท อีกหนึ่งงานใหญ่ สถาปนิก65 (Architect22) ภายใต้แนวคิด CO-WITH CREATORS: พึ่งพา-อาศัย ซึ่งจะมีผู้แสดงสินค้าชั้นนำจากไทยและต่างประเทศ กว่า 450 บริษัท ตบเท้านำทัพนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้างร่วมงานเต็มพื้นที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในช่วงวันที่ 26 เมษายน 1 พฤษภาคม 2565
โดยนายชนะ สัมพลัง นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประธานในพิธีแถลงข่าวฯ เปิดเผยว่า การจัดงานสถาปนิกในทุก ๆ ปี ถือว่ามีส่วนสำคัญในการช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมออกแบบ-ก่อสร้าง สถาปัตยกรรมของประเทศไทย และเป็นสื่อกลางที่ดีที่สุดให้กับคนในแวดวงและผู้บริโภคได้มาเจอกัน เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ในวิชาชีพทางสถาปัตยกรรม และเป็นเวทีที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนางานด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรมไทยที่มีองค์ความรู้ใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ จนเป็นสัญลักษณ์ของการจัดงานที่ทุกคนจดจำ
สำหรับ ปีนี้ มีความพิเศษและยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้ก้าวเดินหน้าต่อในยุคโควิด โดยอาศัยความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้ และการพึ่งพาอาศัยศักยภาพของกันและกัน ระหว่างสถาปนิก x นักสร้างสรรค์ (Creators) ในสาขาอาชีพต่าง ๆ จนเกิดการ Cross-culture และ Cross-function นำมาสู่แนวคิดหลักของงาน คือ CO-WITH CREATORS: พึ่งพา-อาศัย
โดยแนวคิดนี้มาจากประธานจัดงาน 3 ท่าน จาก 3 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เล็งเห็นความสำคัญของการ พึ่งพา-อาศัย จากการได้ทำงานร่วมกันท่ามกลางแนวคิด ภาษา และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ระหว่างสถาปนิกและนักสร้างสรรค์ในสาขาอาชีพอื่น ๆ จากภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในมุมมองสถาปัตยกรรมใหม่ ๆ หรือ เรื่องราวใหม่ ๆ ที่อาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน และมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกัน คือ การต่อยอดและพัฒนางานในอุตสาหกรรมออกแบบ-ก่อสร้าง และสถาปัตยกรรม อย่างไม่สิ้นสุด
ด้าน นายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้จัดงานฯ กล่าวว่าสถาปนิก65 เป็นงานจัดแสดงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และครบครันที่สุดในอาเซียน ถือเป็น 1 ในงานจัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้แสดงสินค้าและผู้ชมงานจากทั่วโลก โดยปีนี้มีบริษัทที่ตอบรับเข้าร่วมจัดแสดงเต็มพื้นที่กว่า 50,000 ตารางเมตร รวมกว่า 450 บริษัท แบ่งเป็นผู้จัดแสดงสินค้าจากต่างประเทศกว่า 5% อาทิ อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ อินเดีย มาเลเซีย ฯลฯ
ทั้งนี้ การจัดงานในปีนี้มีการจัดแสดงพื้นที่ในรูปแบบพิเศษ Thematic Pavilion เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นความร่วมมือกันระหว่าง ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ x ซัพพลายเออร์วัสดุก่อสร้าง ที่นำผลิตภัณฑ์ของแต่ละแบรนด์มาสร้างสรรค์เป็นพื้นที่จัดแสดงที่เทียบเคียงกับงานดีไซน์ระดับโลก เพื่อมุ่งสร้างประสบการณ์พิเศษที่ไม่เหมือนทุก ๆ ปี ให้กับเหล่านักออกแบบ นักสร้างสรรค์ ผู้จัดแสดงสินค้า และผู้เข้าชมงาน พร้อมยกระดับการจัดงานสู่สากล อาทิ ผลงานสร้างสรรค์ร่วมกันระหว่าง VG x PHTAA ที่นำเสนอพื้นที่แบบบ้านทรงไทยยกใต้ถุน โดยใช้วัสดุรางน้ำฝนและหลังคาไวนิล TOA X ARiA Design Architects ที่เล่นกับรูปทรงประหลาดตาอันแสดงถึงศักยภาพของวัสดุที่ส่งเสริมการออกแบบอย่างยั่งยืน WDC X ACa ตีโจทย์การออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยในห้องต่าง ๆ ออกมาเป็น Conceptual Space ผ่านวัสดุกระเบื้องหลายรูปแบบ และ EDL x Sher Maker ผลงานออกแบบที่ชวนให้มองถึงแง่มุมในการใช้วัสดุแบบใหม่ ๆ ผ่านพื้นที่ปิดล้อมเชิงประสบการณ์
ทางด้านความพร้อมของผู้แสดงสินค้าต่างเตรียมขนทัพผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานงานด้านดีไซน์ และนวัตกรรมเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ และไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้อยู่อาศัย อาทิ เทรนด์ Health & Wellness ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ประเภท Hygienic Product อย่าง TOA Organic Care สีที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติแทนปิโตรเลียม ไร้สารก่อภูมิแพ้ กลิ่นอ่อนพิเศษ ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก USDA สหรัฐอเมริกา รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย จาก TOA, ลามิเนตที่สามารถต้านเชื้อไวรัสได้ถึง 100% รายแรกของโลก จาก GREENLAM LAMINATES, นวัตกรรมผ้า Anti-microbial Collections ที่บรรจุคุณสมบัติพิเศษด้วยเทคโนโลยีจากสวิสเซอร์แลนด์ ยับยั้งเชื้อไวรัสได้ 96% และแบคทีเรียได้ถึง 99% จาก PASAYA
นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมจากต่างประเทศอีกมากมาย อาทิ แผงโซลาร์เซลล์ Tesla และ Powerwall ที่ช่วยให้ผลิตไฟฟ้าไว้ใช้งานเป็นของตนเองได้ จาก SOLAR D, ผลิตภัณฑ์หินตกแต่งจากบราซิล โดย RICA STONE & MARBLE, ชุดครัว อ่างล้างมือ และแผ่นตกแต่งปิดผิว โดยทีมนักออกแบบชาวญี่ปุ่น จาก sanwacompany และการประชันระหว่างเครื่องมือช่างแบรนด์อันดับหนึ่งจากฝั่งอเมริกาและญี่ปุ่น อย่าง BLACK+DECKER และ MAKITA, APTICO วัสดุปิดผิวนำเข้าจากประเทศออสเตรีย ด้วยเทคโนโลยีพื้นผิวสัมผัสเนื้อแมตต์ (Ultra-matt Finish) คุณภาพระดับ Food Grade สามารถป้องกันรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วนต่าง ๆ ลบรอยขีดข่วนได้ด้วยความร้อน ป้องกันแบคทีเรีย กันสารเคมี ทำความสะอาดได้ง่าย จาก EDL
ในส่วนของแบรนด์ดังที่มาร่วมจัดแสดงภายในงาน อาทิ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด นำเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด SCG for Smart Living, Smart City สัมผัสกับนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยทั้งในบ้าน อาคาร และเทคโนโลยีการก่อสร้างจาก SCG ที่จะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าสำหรับวันนี้และในอนาคต
สำหรับพื้นที่จัดแสดงภายในงานสถาปนิก65 จะมีไฮไลท์ คือ โซนนิทรรศการ Dwell Well อยู่ได้ อยู่ดี ที่จัดแสดงโซลูชันที่หลากหลายที่ไม่เพียงตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการก่อสร้างในยุคปัจจุบัน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์เมืองที่น่าอยู่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว และ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด นำเสนอ สี JORAKAY BIOSPHERE PREMIUM ที่อยู่ในกลุ่มของสี Natural Color ผลิตจากวัสดุจากธรรมชาติ Lime Base ลดปัจจัยที่ทำให้เกิดโลกร้อนโดยการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในเวลาแห้งตัว ช่วยระบาย และถ่ายเทความร้อนได้ดี ทนต่อทุกสภาพอากาศ มลภาวะและรังสี UV ไม่มีกลิ่นของสารระเหย (NON VOCs) และปราศจากสารก่อมะเร็ง (No Formaldehyde) ปลอดภัยกับสุขภาพ เข้าอยู่ได้ภายใน 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับงานทาสีบ้านใหม่และงานรีโนเวท
นายศุภแมน กล่าวเสริมว่า มีความมุ่งหวังว่าอุตสาหกรรมออกแบบ สถาปัตยกรรม อสังหาริมทรัพย์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จะเริ่มกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากตลาดซบเซาเป็นเวลานานจากสถานการณ์โควิด โดยเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศที่ตอบรับเข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมางานสถาปนิกจะเป็นอีกหนึ่งเวทีที่สามารถกระตุ้น หรือ ชี้วัดดัชนีทางเศรษฐกิจได้ และในฐานะผู้จัดงานฯ มีความมั่นใจว่าการจัดงานสถาปนิก65 จะสามารถดำเนินการได้อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดตามมาตรฐานที่ ศบค. กำหนด โดยคาดการณ์ว่าตลอดการจัดงาน 6 วัน จะมีจำนวนผู้เข้าชมงานกว่า 300,000 คน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่มาเดินชมงานจะมีความหลากหลายมากกว่าการจัดงานที่ผ่านมา เนื่องจากได้ฐานผู้ติดตามกลุ่มนักสร้างสรรค์ (Creators) ที่มาร่วมครีเอทผลงานกับสถาปนิกในครั้งนี้ และมีเม็ดเงินสะพัดหลังจบงานกว่า 2 หมื่นล้านบาท
28/3/2565 ฐานเศรษฐกิจ (28 มีนาคม 2565)