รีเจ้นท์โฮม บุกรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีวุฒากาศ 3,000 ยูนิต ห้องชุดราคาเดียว 1.2 ล้าน ทุกชั้นทุกยูนิต
วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ เจ้าตลาดคอนโดฯราคาคุ้มค่า ไม่หวั่นโควิด-19 ประเดิมปีเสือเปิดตัว รีเจ้นท์โฮม บางนา มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท กระแสตอบรับแรงเกินคาด ทำยอดขาย 70% หลังเปิดพรีเซลแค่ 2 เดือน เดือนพฤษภาคมนี้เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ รีเจ้นท์ โฮม วุฒากาศ ห่างจากบีทีเอสสถานีวุฒากาศเพียง 180 เมตร ขนาด 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร ทุกชั้นราคาเดียว 1.2 ล้านบาท
นางสาวปรารถนา อยู่ภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัทรีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ รีเจ้นท์ โฮม บางนา เป็นอาคารไฮไรส์สูง 32 ชั้น ทั้งหมด 4 อาคาร จำนวนห้องชุดรวม 5,000 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอนพื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตร มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท
พบว่า ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อลงทุนเข้ามาจับจองห้องชุดไปแล้วกว่า 60-70% ภายในเวลาแค่ 2 เดือนเท่านั้น ซึ่งถือว่าเกินกว่าเป้าหมายที่บริษัทคาดการณ์ไว้และสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในช่วงซบเซาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 และตลาดคอนโดฯที่อยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่องมา 2-3 ปีแล้ว
ดังนั้นในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ บริษัทฯเตรียมเปิดตัวคอนโดฯโครงการใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการ แบรนด์ รีเจ้นท์ โฮม วุฒากาศ มูลค่าโครงการกว่า 3,700 ล้านบาท พัฒนาเป็นคอนโดฯไฮไรส์ 2 อาคาร สูง 37 ชั้นจำนวน 1,933 ยูนิต และสูง 38 ชั้นจำนวน 1,165 ยูนิต รวม 3,098 ยูนิต และร้านค้า 18 ยูนิต ราคาขาย 1.2 ล้านบาททุกยูนิต หรือเฉลี่ยตารางเมตรละกว่า 46,000 บาทเท่านั้น ออกแบบเป็นห้องชุดขนาด 1 ห้องนอนพื้นที่ใช้สอย 26 ตารางเมตร
ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนวุฒากาศ อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีวุฒากาศเพียง 180 เมตร การเดินทางโดยรถไฟฟ้าเพียง 15 นาทีถึงสีลม, สาทร ย่าน CBD ซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจและมีบริษัทชั้นนำมากมาย นอกจากนี้ยังมีสถานศึกษาชั้นนำหลายแห่ง โครงการฯจึงน่าจะตอบโจทย์ความต้องการของคนเมือง ที่ใช้เวลาเร่งรีบได้เป็นอย่างดี อีกทั้งโครงการฯใกล้กับตลาดพลูและห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางหว้า และรถไฟฟ้า สายสีทอง สถานีกรุงธนบุรีได้สะดวก และเชื่อมต่อกับถนนราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ กาญจนาภิเษก และเพชรเกษมได้ด้วย
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการฯ มีทั้ง Garden jogging track สำหรับออกกำลังกายใกล้ชิดธรรมชาติ,Energetic Fitness ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool พื้นที่ Co-working space สำหรับนั่งทำงานและพักผ่อน และห้อง Meeting Room
ในฐานะที่เป็นเจเนอเรชั่นรุ่น 2 ของกลุ่มรีเจ้นท์ฯที่เข้ามาบริหารร่วมกับคุณพ่อ นิรัตน์ อยู่ภักดี ผู้บุกเบิกตลาดคอนโดฯบีโอไอมากว่า 30 ปี ภายใต้แบรนด์ รีเจ้นท์ โฮม ได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์และฟังก์ชันใช้สอยภายในห้องชุดให้สอดรับและตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยของพื้นที่ส่วนกลางให้มากขึ้น เช่น พื้นที่ Co-working Space เพื่อรองรับการทำงานของลูกค้าที่ทำงานแบบ Work from Home พื้นที่สวนส่วนกลางและ jogging track ส่วนลิฟต์โดยสารก็เลือกใช้ของโอทีสหรือยี่ห้ออื่นที่เทียบเท่า สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของเฮเฟเล่ เป็นต้น
จุดเด่นที่ทำให้คอนโดฯ รีเจ้นท์ โฮม ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า นางสาวปรารถนากล่าวว่า ห้องชุดของแบรนด์รีเจ้นท์เป็นราคาที่จับต้องได้ ซึ่งเมื่อเทียบราคาขายต่อตารางเมตรกับโครงการอื่นที่อยู่ในรัศมีเดียวกันถือว่าคุ้มค่า อยู่เองราคาค่าผ่อนก็ใกล้เคียงกับราคาค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ โดยเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 5-6 พันบาทเท่านั้น
โดยห้องชุดทุกชั้นทุกยูนิตเปิดขายราคาเดียว 1.2 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้กลุ่มคนซื้อที่มีรายได้น้อยไปจนถึงรายได้ระดับปานกลาง ที่อยู่ในช่วงวัยเริ่มต้นทำงานหรือกำลังสร้างครอบครัวใหม่สามารถจองซื้อและผ่อนดาวน์ได้ง่าย นอกจากนั้นแล้วถ้าคนกำลังมองหาช่องทางการเก็บเงิน การลงทุนคอนโดก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เงินงอกเงยชนะเงินเฟ้อ ซึ่งได้ rental yield ประมาณ 6 -7 % ถือเป็นตัวเลือกให้คนที่อยากเก็บเงินนอกจากการฝากธนาคารได้อีกทางเลือกนึง
รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ รีเจ้นท์ โฮม จะอยู่ในย่านชุมชนและเกาะแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในรัศมีไม่เกิน 500 เมตร ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางลง เช่น โครงการรีเจ้นท์ โฮม บางนา ตั้งอยู่บนถนนสรรพาวุธ ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทและถนนบางนา-ตราด มีทั้งแหล่งงาน ที่อยู่อาศัย สถานศึกษา และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง สามารถเดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางเมืองได้สะดวก
ด้านนายนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทรีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ค่อนข้างมาก ทำให้มีห้องชุดเหลือขายอยู่ในตลาดกรุงเทพฯ 4-5 หมื่นยูนิต ขณะที่ราคาสินค้าที่เหลือขายอยู่ในตลาดเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้กลุ่มคนซื้อที่เป็นคนรุ่นใหม่และเรียนจบใหม่ไม่สามารถซื้อได้ จึงเป็นโอกาสของกลุ่มรีเจ้นท์ฯ ที่พัฒนาคอนโดฯบีโอไอขายในราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อยูนิตสามารถตอบโจทย์และรองรับความต้องการของลูกค่ากลุ่มนี้ได้
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ปกครองที่ต้องหาซื้อที่อยู่อาศัยให้กับบุตรหลานของตัวเองได้พักอาศัยในช่วงที่เริ่มต้นทำงานใหม่ ทำให้โครงการของรีเจ้นท์จะมีลูกค้ากลุ่มนี้ประมาณ 20% เพราะในแต่ละปีจะมีนักศึกษาจบใหม่ทั่วประเทศเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯประมาณ 1 แสนคน รวมถึงกลุ่มข้าราชการวัยเกษียณที่นำเงินออมมาซื้อคอนโดฯเพื่อลงทุนแทนการนำเงินไปฝากธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารของรัฐเพราะได้รับผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทตั้งเป้าที่จะพัฒนาคอนโดฯใหม่ปีละ 10,000 ยูนิต โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทวางแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 2-3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรีเจ้นท์โฮม ประชาชื่น, โครงการรีช พหลโยธิน 52 เฟส 2 ราคาขายต่ำกว่า 1 ล้านบาท และโครงการเทอร่า เรสซิเดนซ์ เฟส 2 อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต
6/5/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (6 พฤษภาคม 2565)