มองตลาดเร็ว-รุกตลาดไว กลยุทธ์บุกตลาดครึ่งปีหลัง 2565 ค่ายแสนสิริ
หมากธุรกิจเพื่อต่อจิ๊กซอว์แผนธุรกิจเสริมใยเหล็กระยะยาว 3 ปี ที่มีเป้าหมายลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 150,000 ล้านบาท พร้อมเป้ายอดขายรวม 120,000 ล้านบาท และเป้าหมายยอดขาย-ยอดโอนในปีนี้ 35,000 ล้านบาท มาพร้อมการคืนประโยชน์สู่สังคมและดูแลสิ่งแวดล้อมโลก
ทีมผู้บริหาร 3 เซียนของแสนสิริ ประเดิมด้วย อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริ จากการเดินหน้าภายใต้วิสัยทัศน์ STEP BEYOND เติบโตแข็งแกร่งยั่งยืนในทุกมิติ ภายใต้ 3 กุญแจสำคัญขับเคลื่อนองค์กรคือ PROFIT-PEOPLE-PLANET ส่งผลให้แสนสิริมีผลงานด้าน PROFIT ที่แข็งแกร่ง
โดยครึ่งปีแรก 2565 สร้างยอดขายรวม 18,300 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 52% จากเป้ายอดขาย 35,000 ล้านบาท เรียกว่าเดินมาเกินครึ่งทาง จากการเปิดตัวรวม 15 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 18,800 ล้านบาท มียอดโอน 14,000 ล้านบาท คิดเป็น 40% จากเป้ายอดโอน 35,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดโอนบ้านแนวราบ 65% คอนโดฯอีก 35%
ในจำนวนนี้ยอดขายหลักมาจากโครงการแนวราบถึง 12,700 ล้านบาท หรือ 74% จากยอดขายรวม 6 เดือนแรก ที่สำคัญแสนสิริประสบความสำเร็จจากการ sold out 6 โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และมียอดขายคอนโดมิเนียม 5,600 ล้านบาท
โดยผลงานไตรมาส 2/65 มียอดขายสูงถึง 11,100 ล้านบาท เติบโต 54% เทียบกับไตรมาส 1/65 ที่มียอดขาย 7,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ แสนสิริยังมี backlog หรือสินค้ารอโอนในมือในปีนี้แล้วถึง 10,500 ล้านบาท ดังนั้นจึงเหลือยอดโอนที่ต้องทำผลงานใหม่อีกเพียง 10,500 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดโอนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
มองเร็ว-รุกไวรับอสังหาฯฟื้น
อาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ แสนสิริ แจมมุมมองว่า การพัฒนาธุรกิจในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา ทำให้แสนสิริมองเห็นถึงดีมานด์ที่อยู่อาศัยและทิศทางตลาดอสังหาฯในอนาคต จากการมองตลาดเร็วและพร้อมปรับตัวไวรองรับทุกสถานการณ์ หรือ Speed to Market ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่ทำให้แสนสิริแข็งแกร่งในปี 2564 ท่ามกลางสถานการณ์โควิด มีการตกผลึกหลอมรวมให้เป็นจุดแข็งสร้างความได้เปรียบการแข่งขันในครึ่งปีหลัง 2565 อย่างต่อเนื่อง
แสนสิริจึงพร้อมสุดขีดที่จะทยอยเปิดตัวเพิ่ม 31 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 31,200 ล้านบาท โดยมีธีมการทำธุรกิจเป็นผู้นำ 4 ด้านด้วยกัน เพื่อตอกย้ำแบรนด์แสนสิริยังยืนหนึ่งความเป็นผู้นำตัวจริงด้านการอยู่อาศัย ครองแชมป์แบรนด์อสังหาฯอันดับ 1 ในใจลูกค้า และแบรนด์อันดับ 1 ของคนอยากมีบ้าน ดังนี้
1.ผู้นำตลาดลักเซอรี่ แบรนด์แสนสิริเป็นที่ยอมรับเป็นอย่างสูง และมีชื่อเสียงในเซ็กเมนต์ระดับลักเซอรี่และซูเปอร์ลักเซอรี่ของประเทศไทย ผ่านผลงานและประสบการณ์กว่า 38 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นคอนโดฯซูเปอร์แบรนด์อย่าง 98 Wireless, บ้านแสนสิริ พัฒนาการ, เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ, KHUN by YOO inspired by Stark และบูก้าน โยธินพัฒนา
สำหรับแผนลงทุนครึ่งปีหลัง 2565 แสนสิริเตรียมเปิดตัวแบรนด์ นาราสิริ-NARASIRI บ้านเดี่ยวระดับลักเซอรี่ 2 โครงการใหม่ นาราสิริ พหลฯ-วัชรพล และ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา บนโลเกชั่นที่ดีที่สุดของ กรุงเทพกรีฑา คอมมิวนิตี้
นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา จะเป็นแฟลกชิปโครงการจากแสนสิริในปีนี้ที่นำเสนอเรื่องราวของแบรนด์นาราสิริอีกครั้งในรอบ 10 ปี กับคอนเซ็ปต์ A Matter of Refinement งดงามในรายละเอียด กับโครงการ rare item ใน Sansiri Luxury Collection วางแผนเปิดเป็นทางการตุลาคมนี้
ผลงานการันตีอสังหาฯลักเซอรี่ ล่าสุด นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา มียอดขายล่วงหน้าเกิน 50% มูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท หลังเปิดขายแบบไม่เห็นโครงการจริงในไม่ถึง 1 เดือน จากกระแสเรียกร้องของลูกค้าสาวกแสนสิริ ทำให้โครงการระดับราคา 50-95 ล้านบาทมียอดขายทะลักทลายภายในเวลารวดเร็ว
พร้อมกันนี้ แผนลงทุนปูพรมบ้านเดี่ยวระดับบน เศรษฐสิริ-บุราสิริ กลุ่มราคา 8-20 ล้านบาท มียอดขายล่าสุด 4,800 ล้านบาท ดังนั้น ตีเหล็กตอนไฟกำลังร้อนโดยครึ่งปีหลัง 2565 เตรียมเปิดตัว เศรษฐสิริ ดอนเมือง บนพื้นที่ 79 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,300 ล้านบาท และ บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา บนพื้นที่ 85 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ในทำเลกรุงเทพกรีฑา คอมมิวนิตี้
จุดขายชูโรงภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญ โตคิว กรุ๊ป ประเทศญี่ปุ่น ที่ให้ความสนใจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยร่วมกัน จากการมองเห็นศักยภาพของทำเลกรุงเทพกรีฑา คอมมิวนิตี้ รวมถึงการเปิดตัว บูก้าน กรุงเทพกรีฑา บนพื้นที่ 19 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้อีกด้วย
การกลับมาเป็นผู้นำคอนโดฯ
และ องอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม กล่าวเพิ่มเติมว่า แสนสิริตอกย้ำความสำเร็จในการพัฒนาคอนโดฯแบรนด์ขวัญใจมหาชนอย่าง เดอะ เบส ที่ปิดการขายมาแล้ว 18 โครงการ มูลค่ารวม 33,000 ล้านบาท ล่าสุด ในครึ่งปีหลังนี้ เตรียมเปิดขาย เดอะ เบส ริเวอร์วิว ทำเลใจกลางย่านเจริญนคร เพียง 5 นาทีถึงไอคอนสยาม และ 400 เมตรจากรถไฟฟ้า BTS สถานีคลองสาน คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าไทยและต่างชาติ เตรียมเปิดตัวไตรมาส 4 เดือนพฤศจิกายนนี้
แน่นอนว่า แสนสิริยังประสบความสำเร็จในการพัฒนา affordable condominium จากความสำเร็จในการ sold out ปิดการขายอย่างรวดเร็วแบรนด์ เดอะมูฟ-THE MUVE และ คอนโด มี-condo me โดยครึ่งปีหลัง 2565 วางแผนเปิด condo me อีก 4 โครงการ 4 ทำเล โดยล่าสุดโกยยอดขายจากการเปิดพรีเซลคอนโด มี 3 โครงการใหม่พร้อมกัน มียอดขายรวม 500 ล้านบาท จากกลุ่มลูกค้า real demand ที่ต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง
เหลียวกลับมาดูพอร์ตโอนพบว่า ปีนี้แสนสิริวางแผนโอน 4 คอนโดฯใหม่ ได้แก่ คอนโด มี นวนคร เฟส 2, เดอะ เบส เพชรบุรีทองหล่อ, XT พญาไท เดือนตุลาคม และเดอะ มูฟ เกษตร เตรียมโอนธันวาคมนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้ายอดโอน 12,000 ล้านบาท
ผู้นำดูแลลูกบ้านและสังคม
แสนสิริครองแชมป์ The Most Powerful of Real Estate Brand 2021 เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันต่อเนื่อง โดยผลวิจัยพบว่าลูกค้าค้นหาข้อมูลแบรนด์แสนสิริสูงสุด รวมถึง การบริการ (Sansiri Service) ที่ส่งต่อความสุขในการอยู่อาศัยด้วยความเข้าใจ ดูแลครอบคลุมตั้งแต่วันแรก ตลอดจนทุกช่วงเวลาของการอยู่อาศัย นอกจากนี้ยังดูแลสุขภาพบ้าน ตลอดระยะเวลาประกันด้วย Sansiri Home Care ยังมีกิจกรรม รักษ์สุขภาพบ้าน บริการหลังการขายรายแรกและรายเดียวในไทย พร้อมยกระดับความมั่นใจด้วย LIV-24 นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการดูแลความปลอดภัยเต็มรูปแบบ
ธุรกิจที่แข็งแรงต้องดูแลโลก ดูแลสังคม แสนสิริเดินหน้าทำหลายโครงการเพื่อสร้างรอยยิ้มให้คนไทยและดูแลโลกมาโดยตลอด อาทิ โครงการ No One Left Behind, การฉีดวัคซีนให้พนักงานแสนสิริและพาร์ตเนอร์, ช่วยเหลือ SMEs, ช่วยเหลือแคมป์คนงาน, ช่วยช้าง และช่วยเกษตรกร เป็นต้น
1/8/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (1 สิงหาคม 2565)
