info@icons.co.th 02 810 8892-6 3.144.193.129

Next Chapter 5 ปี โฮมโปร ออกจากลองโควิดไล่ล่าเป้า 1 แสนล้าน

Residential News / ข่าวหมวดที่พักอาศัย

โฮมโปรเข้าสู่ปีที่ 28 ของการก่อตั้งภายในปี 2567 นี้ อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาจัดอีเวนต์ประกาศแผน 5 ปีเป็นครั้งแรก วางเป้ารายได้ 1 แสนล้านบาทภายในปี 2571

“การทำแผนงานแต่ละปีคือช่วงสั้น ส่วนแผนงาน 5 ปีเราทำอยู่แล้ว เพียงแต่ประกาศออกมาเป็นแผน 1 ปี ครั้งนี้ เราออกประกาศใหม่ให้คู่ค้า (เวนเดอร์) ของเราได้รู้ด้วย เพื่อว่าจะได้เตรียมตัวให้มากขึ้น รองรับเป้ารายได้ที่มากขึ้น” คำกล่าวของ “วีรพันธ์ อังศุมาลี” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือโฮมโปร

ปักหมุด 170 สาขาทั่วไทย

ทั้งนี้ บิ๊กอีเวนต์ของเจ้าพ่อวงการโมเดิร์นเทรดวัสดุและของตกแต่งบ้านค่าย “HomePro-โฮมโปร” จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ HomePro Next Chapter Make Every Change a Better Life วางยุทธศาสตร์การเติบโตยั่งยืน 5 ปี (2567-2571) เป้ารายได้ 1 แสนล้านบาท ภายใต้แผนการดำเนินงานอธิบายผ่านโมเดล 3S ประกอบด้วย

1.“Synergized Omnichannel” ช่องทางการขายออนไลน์เพื่อเชื่อมกับออฟไลน์แบบไร้รอยต่อ รองรับลูกค้า B2C (ลูกค้าเอนด์ยูสเซอร์) และขยายฐานลูกค้าไป B2B (ธุรกิจกับธุรกิจ) มากขึ้น โดยมี 3 แอปหลัก คือ HomePro Online-Home Service-Home Card

เนื้องานหลักจะมีการขยายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศไทย ปัจจุบันมี 127 สาขาในประเทศไทย กับ 7 สาขาในมาเลเซีย รวมเป็น 134 สาขา อย่างไรก็ตาม สาขามาเลเซียบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาปรับปรุงประสิทธิภาพทุกด้าน เพื่อนำมาสู่การตัดสินใจครั้งสำคัญในโอกาสต่อไป ดังนั้น แผน 5 ปี จึงกลับมาโฟกัสขยายเพิ่มอย่างน้อย 43 สาขา จาก 127 สาขา เพิ่มเป็น 170 สาขาในไทย เฉลี่ยขยายปีละ 8 สาขา

ล่าสุดสาขามี 3 เวอร์ชั่น ได้แก่ โฮมโปร ไซซ์ 7,000-8,000 ตารางเมตร, เมกาโฮม ถัวเฉลี่ยจะอยู่ที่ไซซ์ 1.1 หมื่นตารางเมตร และสาขาไฮบริด รวมจุดเด่นของโฮมโปรกับเมกาโฮม โดยหยิบโมเดลโฮมโปร 8,000 ตารางเมตร บวกเพิ่มสินค้าเอาต์ดอร์กลุ่มวัสดุหนัก เหล็ก ปูน ฯลฯ อีก 2,000 ตารางเมตร ทำให้มีไซซ์เฉลี่ย 1.1 หมื่นตารางเมตร

ผู้นำนวัตกรรมและยั่งยืน

ควบคู่กับเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์กระจายสินค้า DC-Distribution Center ปัจจุบันมีพื้นที่ 373,795 ตารางเมตร วางแผนขยายเพิ่ม 100,000 ตารางเมตร เพื่อรับและส่งออกสินค้าชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ 4 แสนชิ้น/วัน รวมทั้งอัพเกรดระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ หรือ ASRS-Automated Storage and Retrieval System)

นอกจากนี้ มีบริการให้เช่าคลังสินค้า, บริการขนส่งกลับหรือ Backhaul ด้วยต้นทุนต่ำ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งที่มีคุณภาพและรวดเร็วหรือ Last Mile Delivery, ขยายดาต้าแวร์เฮาส์ เทคโนโลยี และระบบอัจฉริยะหรือเอไอ-AI เป็นต้น เบ็ดเสร็จคาดว่าใช้เม็ดเงินลงทุน 30,000 ล้านบาท เกลี่ยอยู่ในแผน 5 ปี เฉลี่ยลงทุนปีละ 6,000 ล้านบาท

2.“Superior Experience” สร้างประสบการณ์พิเศษเฉพาะราย ภายใต้การบริหารงานระบบ Lifetime Ecosystem แตกแขนงออกมาเป็นระบบ VVIP-Notification/Navigation แจ้งเตือนทุกครั้งที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่สาขา, บริการใหม่ Preorder ให้ลูกค้าช็อปสินค้าล่วงหน้า, บริการ Booking ช่วยให้ลูกค้าช็อปสินค้าได้ทันใจ, บริการ Customer Mobile Shopping และบริการที่ปรึกษามืออาชีพ

และ 3.“Sustainable Innovation” สร้างนวัตกรรมอย่างยั่งยืน โดยมีเรื่องใหม่ในปี 2567 ด้วยการเปิดตัว First Closed Loop Circular Appliances โฮมโปรเคลมเป็นผู้ค้าปลีกรายแรกที่ดำเนินโครงการรีไซเคิล Waste of Electrical and Electrical Equipment (WEEE) พัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหมุนเวียนแบบครบกระบวนการ ตั้งแต่เก็บของใช้งานแล้วจากบ้านลูกค้า เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่มีมาตรฐาน GRS รองรับ เพื่อให้ได้เม็ดพลาสติก PCR นำกลับมาผลิตใหม่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า โปรเจ็กต์ร่วมกับพันธมิตร Haier, Toshiba, Venz และ SCG เป้าหมายลดปริมาณขยะให้กับโลก

31/1/2567  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 31 มกราคม 2567 )

ช่องยูทูปของ iCONS