กฟผ.ลุยจีนศึกษาโรงไฟฟ้าโซลาร์ Yinggehai ใหญ่ที่สุดในไห่หนาน หนุนเพิ่มสัดส่วนผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เร่งโปรเจ็กต์โซลาร์ลอยน้ำอีก 2,656 MW 15 โครงการตามแผน PDP 2024 คาดแล้วเสร็จปี 2573
นายทิเดช เอี่ยมสาย รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ. ยังคงเดินหน้าพัฒนาพลังงานสะอาด ผ่านการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อความมั่นคงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำในเขื่อนของ กฟผ. ซึ่งมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่ำ และตอบโจทย์พลังงานสะอาดอย่างเป็นรูปธรรม
โดยจะเร่งดำเนินโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำโครงการที่เหลืออีก 2,656 MW จากทั้งหมด 2,725 MW ตามร่างแผน PDP2024 ให้แล้วเสร็จภายในปี 2573 ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนสิรินธร เขื่อนน้ำพุง รวม 15 โครงการ
ทั้งนี้ กฟผ. ได้ศึกษาดูงานและเยี่ยมชม โรงไฟฟ้า Yinggehai Solar Power Plant โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสถานีกักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่บนพื้นที่นาเกลือเก่า และพื้นที่ลุ่มน้ำชายฝั่ง Nachao ทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพ ควบคุมความถี่ของระบบไฟฟ้าในเขต Ledong และทั่วทั้งมณฑลไห่หนาน
โรงไฟฟ้านี้มีอายุโรงไฟฟ้าประมาณ 25 ปี พัฒนาโดยบริษัท Hainan Holdings Energy Company ทั้งนี้โครงการดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 654 ล้านหน่วย ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 548,819 ตัน โดยแบ่งพื้นโครงการ ได้แก่
1) โครงการต้นแบบ เริ่มต้นในปี 2561 กำลังผลิต 30 MW เงินลงทุนประมาณ 896 ล้านบาท (190 ล้านหยวน) ผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ย 45 ล้าน kWh ต่อปี
2) Tianhao Power Station กำลังผลิต 100 MW เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 2565 เงินลงทุนประมาณ 2,455 ล้านบาท (520 ล้านหยวน) ผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ย 165 ล้าน kWh ต่อปี มีระบบกักเก็บพลังงาน 50 MWh ดำเนินการโดยบริษัท Baoguang Zhizhong
3) Tongsheng Power Station กำลังผลิต 300 MW แบ่งเป็น ระยะที่ 1 : 100 MW เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคม 2565 และ ระยะที่ 2 : 200 MW เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา
มีเงินลงทุนประมาณ 8,458 ล้านบาท (1,790 ล้านหยวน) ผลิตไฟฟ้าเฉลี่ย 495 ล้าน kWh ต่อปี ระบบกักเก็บพลังงาน 150 MWh ดำเนินการโดย 2 บริษัท คือ BYD จำนวน 50 MWh และ Sungrow Power Supplyจำนวน 100 MWh การกักเก็บพลังงานถูกจัดสรรในอัตราส่วน 25% ของกำลังผลิตติดตั้ง)
นอกจากนี้โรงไฟฟ้า Yinggehai มีระบบควบคุมที่สามารถสั่งการ โดยการตั้งเวลาและเส้นทางให้หุ่นยนต์และโดรนออกไปสำรวจแผงโซลาร์เซลล์และพื้นที่ระบบกักเก็บพลังงานแบบอัตโนมัติ เพื่อตรวจสอบความผิดปกติ หรือสิ่งแปลกปลอม ด้วยระบบอินฟราเรด ในการตรวจวัดอุณหภูมิ ด้วยระบบประมวลผล AI
ซึ่งสามารถแจ้งเตือนได้ทันทีเมื่อแผงโซลาร์เซลล์เกิดความผิดปกติ พร้อมวิเคราะห์ความผิดปกติดังกล่าวว่าจะส่งผลต่อการผลิตไฟฟ้าหรือไม่ หากจำเป็นต้องแก้ไข ระบบจะสามารถแจ้งความผิดปกติ พร้อมให้ข้อแนะนำได้ตรงจุดและแม่นยำ ช่วยลดระยะเวลา และจำนวนเจ้าหน้าที่ในการดูแลพื้นที่ทั้งหมด พร้อมเสริมประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
9/11/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 9 พฤศจิกายน 2567 )