LPN ชูกลยุทธ์ 2568 ปีแห่งการปรับตัวสู่ความยืดหยุ่น ลงทุนใหม่ 4 โครงการ 6,000 ล้าน
นางสาวดารณี ฉัตรพิริยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า โดย LPN มีประสบการณ์การดูแลลูกค้า 130,000 ครอบครัว มายาวนาน 36 ปี พร้อมเดินหน้าพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อยกระดับ ความน่าอยู่ ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย
สำหรับแผนลงทุนปี 2568 LPN ปรับกลยุทธ์สู่แนวคิด Healthy Resilience โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่ต้องมีความยืดหยุ่นขึ้น เพื่อนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายผ่านแกนหลัก 5P ดังนี้
1.Products วางแผนเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ บนทำเลถนนรามอินทราและอ่อนนุช มูลค่ารวม 3,350 ล้านบาท กับบ้านแนวราบระดับพรีเมี่ยม 2 โครงการ บนทำเลถนนพระราม 5 และพุทธมณฑลสาย 4 มูลค่ารวม 2,650 ล้านบาท
บริษัทให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงการ โดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตของคนทุกวัยอย่างมีสุขภาวะที่ดี (Universal and Wellness Design) ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งในรูปแบบของครอบครัวและการใช้ชีวิตแบบคนโสด ซึ่งเป็นโจทย์ใหม่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยคนโสด (Solo Economy)
โดยปี 2568 บริษัทมีปรับพอร์ตซื้อที่ดินที่เหมาะสำหรับการพัฒนาคอนโดฯ มากขึ้น เพราะคอนโดฯ LPN ยังเป็นจุดแข็งที่ลูกค้าให้การยอมรับและเชื่อมั่นมายาวนาน อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ซื้อในปัจจุบันที่เริ่มมีกลุ่มผู้ซื้อเพื่อการลงทุนมากขึ้น โดยสัดส่วนการเปิดคอนโดมิเนียมจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในปี 2569 เป็นต้นไป
2.Process ปรับกระบวนการทำงานให้มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ เน้นการใช้นวัตกรรมข้อมูล และเทคโนโลยีให้มากขึ้น ในการปรับปรุงกระบวนการทำงานภายใน โดยมุ่งสู่ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ตั้งแต่การจัดซื้อที่ดิน งานออกแบบ การก่อสร้าง การส่งมอบ และการบริหารจัดการโครงการหลังการส่งมอบ เพื่อครอบคลุมความต้องการของลูกค้า
รวมทั้งให้ความสำคัญกับการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและการก่อสร้างไปสู่การเป็น Net Zero Waste Developer ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2566 และดำเนินการต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
โดยบริษัทกำหนดเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกเฉลี่ยปีละ 2.5% เริ่มนับปี 2566 เป็นปีฐาน ซึ่งมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,292 ตันคาร์บอน (tCO2e) ปี 2567 ลดลงเหลือ 1,259.7 ตันคาร์บอน (tCo2e) หรือลดลง 2.5% ตามแผนเป็น Net Zero ภายในปี 2608
3.People มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพทีมงานภายใต้แนวคิด Work Smart with Commitment เพิ่มการอบรมในทุก ๆ ด้าน การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ให้สามารถทำงานร่วมกัน มีทักษะในการเรียนรู้ปรับตัวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ พร้อมส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า
4.Partnership and Stakeholders ปี 2568 จะเป็นปีที่ LPN พร้อมเปิดรับพันธมิตรทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อต่อยอดในการดำเนินธุรกิจ โดยร่วมกันสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันและเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาฯ และมุ่งหวังให้พันธมิตรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจสามารถที่จะได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมต่อเนื่อง
5.Performance มีเป้าหมายยอดขาย 8,500 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 8,300 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2567 ที่มียอดขาย 8,450 ล้านบาท รายได้รวม 8,000 ล้านบาท เป้าหมายสำคัญคือ การนำ LPN กลับไปสู่ TOP10 ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ได้ภายใน 5 ปี
โดยให้ความสำคัญกับการบริหารการเงิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการนำพาธุรกิจให้ขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างแข็งแกร่งและเติบโตอย่างมั่นคงในอัตรา 5-10% ต่อปี
การจัดการสภาพคล่องทางการเงิน โดยการลดปริมาณสินค้าคงเหลือ (Inventory) ให้ได้มากที่สุด และการสร้างรายได้จากหน่วยธุรกิจให้เช่าและการให้บริการ เพื่อเพิ่มกระแสเงินสด และรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น เพียงพอต่อการบริหารจัดการ และการลงทุนใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทำธุรกิจอย่างครบวงจร (Self-Fulfillment)
นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยทั้งประเภทอาคารชุดและบ้านพักอาศัยแล้ว แอล.พี.เอ็น. ยังมีบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และสร้างรายได้ให้กับบริษัท ทั้งบริษัทบริหารจัดการโครงการอย่าง บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) ที่ปัจจุบันได้รับการยอมรับจากลูกค้าในการบริหารจัดการนิติบุคคลกว่า 260 โครงการ
ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าคงเหลือพร้อมขายมูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท มียอดขายรอโอน (Backlog) ในปี 2568 อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท และมีแผนปล่อยแคมเปญส่งเสริมการขายต่อเนื่องทั้งปี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อทั้งลูกค้าที่ซื้ออยู่เองและกลุ่มนักลงทุน
ทั้งยังให้ความสำคัญกับการบริหารความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว อาทิ โปรแกรม #MembersGetNeighbors ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2567 เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้า LPN ทุกคนสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับสมาชิกครอบครัว LPN ควบคู่ไปกับกิจกรรมสานสัมพันธ์ และการมอบสิทธิประโยชน์อีกมากมายในอนาคต
นางสาวดารณีกล่าวว่า จากกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการรับเรื่องพิจารณาผ่อนคลายเกณฑ์ LTV-loan to value (มาตรการบังคับเงินดาวน์แพงในการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 เป็นต้นไป) คาดว่าน่าจะมีข้อสรุปภายในไตรมาส 2/68 ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบแล้ว คาดว่าส่งผลเชิงบวกกับลูกค้า LPN โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม จากการที่ลูกค้า LPN จำนวนมากซื้อคอนโดฯ เป็นบ้านหลังที่ 2 เพื่อพักอาศัยใกล้ที่ทำงาน
ถึงแม้ปีนี้จะเป็นอีกปีที่ท้าทาย แต่เชื่อว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจ Healthy Resilience จะทำให้พวกเราก้าวข้ามความผันผวนและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในปี 2568 โดยที่มียอดขายและรายได้ตามแผนที่วางไว้ CEO LPN กล่าว
10/3/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 10 มีนาคม 2568 )
